Archive
Café Now : คาเฟ่สวยเก๋ที่ยึดคอนเซปต์ความเป็นปัจจุบัน
วันที่กรุงเทพฯ มีร้านกาแฟแข่งกันเปิดมากมายอย่างทุกวันนี้ การสร้างจุดร่วมของคาเฟ่แต่ละสาขาให้เป็นที่จดจำของลูกค้าคือสิ่งที่หลายร้านหันมาให้ความสำคัญ แต่ Café Now คาเฟ่เท่ๆ ที่มี สาธิต กาลวันตวานิช ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Propaganda เป็นหนึ่งในผู้บริหาร มีแนวคิดต่างออกไป
ทอมมี่-ธนบัตร กายเออร์ บาริสต้าหนุ่มแห่ง Café Now เล่าให้ฟังว่า การออกแบบร้านของ Café Now ในแต่ละสาขาจะแตกต่างกันไป เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซปต์ของร้านคือคำว่า Now ที่ต้องการสื่อสารถึงความเป็นปัจจุบัน เพราะสำหรับคำว่า Now แล้ว ไม่ว่าจะพูดที่ไหน เวลาไหน ก็ยังคงเป็น Now เช่นเดียวกับสไตล์การตกแต่งร้านที่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ยังคงเป็นปัจจุบันเสมอ
Café Now สาขาทาวน์อินทาวน์ซึ่งตอนนี้เป็นสาขาแรกสาขาเดียวของร้าน ได้รับการออกแบบให้เป็นคาเฟ่สไตล์ Loft หรือ Industrial ที่มีกลิ่นอายย้อนยุค มีบันไดเหล็ก ปูนเปลือย และเพดานยกสูง เป็นจุดเด่น ผนังของร้านส่วนใหญ่เป็นกระจกจึงให้ความรู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด ด้านบนของคาเฟ่คือออฟฟิศของ Propaganda ภายในร้านค่อนข้างกว้าง ที่นั่งถูกจัดไว้เป็นสัดส่วน มีทั้งโต๊ะ เคาน์เตอร์บาร์ (ทอมมี่บอกว่าเขามีส่วนออกแบบภายในบาร์ด้วย เช่น กำหนดความสูงที่เหมาะสม เพราะตัวเองค่อนข้างสูง) รวมถึงบริเวณนอกร้านก็มีที่นั่งไว้รองรับลูกค้าเช่นกัน ส่วนเรื่องการตกแต่ง เราเชื่อว่าคาเฟ่แห่งนี้น่าจะถูกใจคนรักการถ่ายภาพได้ไม่ยาก เพราะนอกจากของแต่งบ้านสวยๆ แล้ว ยังมีของสะสมวินเทจจำนวนมากที่ถูกนำมาจัดแสดงตกแต่งภายในร้าน เช่น ลูกโลก กรอบรูปเก่า หีบใส่ของ หรือแม้แต่สัตว์สตัฟฟ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นข้าวของของสาธิตเองล้วนๆ
ไม่ใช่แค่ร้านสวย ในคาเฟ่สุดเก๋แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยของน่ากิน เมนูของ Café Now มีทั้งกาแฟสไตล์อิตาเลียนพื้นฐาน กาแฟดริป รวมถึงกาแฟสูตรพิเศษที่คิดค้นขึ้นเองอย่าง Ginger Latte หรือกาแฟนมผสมไซรัปขิงสด โดยทั้งกาแฟและอาหารของร้านนี้ให้ความสำคัญกับสุขภาพของลูกค้าเป็นหลัก ผักและเมล็ดกาแฟที่ใช้จึงเป็นออร์แกนิกทั้งหมด ถึงแม้สไตล์การตกแต่งร้านของแต่ละสาขาจะไม่เหมือนกัน แต่คุณภาพและความใส่ใจที่ใช้ปรุงทุกเมนูไม่ต่างกัน
วันไหนที่มีเวลา การมานั่งจิบกาแฟที่ Café Now สักแก้วอาจทำให้พบว่าความสุขในปัจจุบันหาได้ไม่ยากเลย
cr. adaymagazine
.
.
มาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเรา
COME AND BECOME ONE OF OUR LEGEND.
.
.
.
.
.
ถ้า…
คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย #กาแฟเปอร์เซีย #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์ #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย #แฟรนไชส์ #theindiantea #theindianteafranchise #franchisethailand #แฟรนไชส์เครื่องดื่ม #แฟรนไชส์กาแฟ #เปิดร้านกาแฟ #ธุรกิจร้านกาแฟ #ขายกาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
สงครามร้านกาแฟ เข้ม ! ยิ่งกว่าแบรนด์ ยิ่งกว่ารสชาติ
ข้อมูลจาก บริษัท คอปเปอร์ คราวน์ ระบุว่ามูลค่าตลาดเชนร้านกาแฟสดอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่หากวิเคราะห์กันไปให้ถึงเนื้อแท้ นับรวมรายได้กลุ่มร้านกาแฟสด SME ที่เปิดกันเกลื่อนเมือง แน่นอนมูลค่าร้านกาแฟสดจะพุ่งทยานมากกว่า 15,000 ล้านบาท ชนิดที่ไปไกลทิ้งห่างพอสมควร
เหตุผลนี้เองที่ทำให้ไม่ว่าจะเป็น Inter Brand หรือ Local Brand ตลอดจนไปถึงกลุ่มคนที่อยากมีธุรกิจเล็กๆ เลือกที่จะลงทุนเป็นเจ้าของร้านกาแฟชิคๆ เพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก แถมกำไรต่อแก้วอยู่ในระดับที่สูง
ยิ่งเวลานี้เทรนด์ผู้บริโภคเริ่มพัฒนาเข้าสู่โหมดหลงไหลไปกับบรรยากาศร้านกาแฟจนกลายเป็น Third Place บ้านหลังที่สามของผู้บริโภค ที่ใช้พบปะพูดคุยสังสรรค์, หรือพักผ่อนนั่งชิลล์ๆ พร้อมกับดื่มดำไปกับรสชาติกาแฟสดคั่วบด
ตรงนี้เองที่ส่งผลให้ตลาดกาแฟ 3 in 1 ที่ชงดื่มในบ้านและในที่ทำงานได้ผลกระทบตลาดไร้ซึ่งการเติบโต จนทำให้ผู้นำตลาดกาแฟ 3 in 1 อย่าง NESCAFÉ เลิกผลิตกาแฟ 3 in 1 ที่อยู่ในตลาดนาน 20 ปี พร้อมกับผลิตกาแฟสำเร็จรูปสูตรใหม่ “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู” ที่มีส่วนผสมกาแฟคั่วบดละเอียด
เมื่อหลักฐานชัดเจนแล้วว่าร้านกาแฟสดมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มเชนร้านกาแฟสดทั้ง สตาร์บัคส์,ทรู คอฟฟี่,คาเฟ่ อเมซอน และ คอฟฟี่ เวิลด์ เลือกที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงได้เกิดแบรนด์ร้านกาแฟหน้าใหม่ๆ ขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เป็นการแข่งขันในถ้วยกาแฟที่อยู่ในรสชาติเข้มข้น ที่นี้ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าร้านไหน ? เลือกจะเสิร์ฟเมนูการตลาดอะไรให้ถูกใจผู้บริโภค
“สตาร์บัคส์” จะขายกาแฟแพงขึ้น ต้องเสิร์ฟอะไรที่มากกว่า “รสชาติ”
โดยวิถีของ “สตาร์บัคส์” คือการเปิดร้านกาแฟรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า Starbucks Reserve Experience Store โดยปัจจุบันมี 3 สาขาคือ Siam Discovery, Central East Ville และล่าสุดคือ ศูนย์การค้า เกสร
“ร้าน Reserve จะเป็นร้านที่มีการนำเมล็ดพันธุ์กาแฟคุณภาพสูงที่หายากจาก 30 ประเทศทั่วโลก มาเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า พร้อมกับมีเครื่องชงกาแฟหลากหลายและพนักงาน Coffee Master ที่นอกจากเป็นผู้ชงกาแฟแล้วนั้นยังให้ความรู้เกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟต่างๆ ถือเป็นร้านที่ตอบโจทย์คอกาแฟแบบ Slow Life” เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงร้าน สตาร์บัคส์ ในรูปแบบ Reserve
แนวทางของ “สตาร์บัคส์” ชัดเจนว่าต้องการยกระดับถ้วยกาแฟตัวเองให้ดูมีความเป็น Premium และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการต่อยอดสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่เหนือชั้นแตกต่างและไม่เหมือนใคร
เมื่อขายความ “ต่าง” ทำให้ร้านรูปแบบ Reserve กล้าขายกาแฟราคาเริ่มต้น 160 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าร้านในรูปแบบปกติ แต่ด้วยการที่ทั้ง 3 สาขาถูกวางโลเคชั่นอยู่ในระดับ A + ซึ่งเป็นย่านที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง “สตาร์บัคส์” จึงมั่นใจว่าราคไม่ใช่ปัญหา ขอให้สามารถสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แตกต่าง ผู้บริโภคก็พร้อมจะจ่าย
Variety Platform อาวุทางการตลาดที่ขาดไม่ได้
ขณะเดียวกันหากสังเกตแพลตฟอร์มทางธุรกิจของ “สตาร์บัคส์” ที่เวลานี้ได้สร้างไว้หลายรูปแบบทั้งร้านธรรมดา, Green Store, Reserve และ Drive thru ที่รวมกันทั้งหมด 262 สาขาทั่วประเทศ
“18 ปีที่สตาร์บัคส์ทำธุรกิจในประเทศไทย เราไม่อยากให้ทุกร้านเหมือนกันหมด ทำให้ได้เห็นร้านหลายคอนเซ็ปต์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและมีความหลากหลาย”
เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง ยังมองว่าในยุคที่การแข่งขันธุรกิจร้านกาแฟอยู่ในช่วงรสชาติที่เข้มข้น การจะใช้แค่ “จุดขาย” แค่เรื่อง Image ถ้วยกาแฟที่เหนือกว่าคู่แข่ง รวมไปถึงมาตราฐานกาแฟที่รสชาติเหมือนกันทุกแก้วทั่วโลกอาจดูจะไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นการสร้างรูปแบบร้านหลากหลายเพื่อจับทุกพฤติกรรมการดื่มกาแฟของผู้บริโภค ถือเป็นอีกหนึ่งอาวุธทางการตลาดที่ทรงพลัง
และไม่ใช่แค่นั้นแต่ในยุคนี้ การแข่งขันร้านกาแฟยังเต็มไปด้วยสารพัดโปรโมชั่นโดยเฉพาะรูปแบบซื้อ 1 แถม 1 แก้วดูจะเป็นโปรโมชั่นยอดฮิตที่สุด สังเกตจากที่หลายแบรนด์นิยมใช้กันเพื่อขับเคลื่อนยอดขาย
“สตาร์บัคส์” เองก็ใช้วิธีนี้อยู่บ่อยครั้งโดยล่าสุด ครบรอบ 18 ปีในการทำธุรกิจในไทยของ “สตาร์บัคส์” ให้สิทธิพิเศษสมาชิก My Starbucks Rewards Member ที่มีสมาชิก 680,000 ราย ได้รับสิทธิ์ซื้อเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ประเภทใดขนาดใดก็ได้ 1 แก้ว แถม 1 แก้ว
Branding + Variety Platform + Promotion น่าจะเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้ “สตาร์บัคส์” สามารถมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า 10% และในปีที่ผ่านมายังสามารถเสิร์ฟกาแฟของตัวเองไปสู่กลุ่มลูกค้าสูงถึง 3.5 ล้านแก้ว/เดือน พร้อมกับตั้งเป้าในปี 2018 จะสามารถมีถึง 300 สาขาในประเทศไทย
แต่ก็ใช่ว่า “สตาร์บัคส์” จะอยู่ในสภาวะที่ไร้ซึ่งแรงกดดัน ถึงแม้กลุ่มลูกค้าหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ตัวเองคือกลุ่ม “วัยทำงาน” ที่มีกำลังซื้อ แต่กลับกลุ่มลูกค้า “วัยรุ่น” ต้องบอกว่า “ทรู คอฟฟี่” กลับทำได้ดีกว่า ซึ่งถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ “สตาร์บัคส์” ต้องขบคิดในการดึงดูดให้กลุ่มวัยรุ่นหลงไหลในมนต์เสน่ห์ถ้วยกาแฟของตัวเอง
“คอฟฟี่เวิลด์” จากถ้วยกาแฟ Premuim ขอเป็น Younger
เหมือนอย่างที่ “คอฟฟี่เวิลด์” อีกหนึ่งร้านกาแฟที่ต้องการลูกค้ากลุ่มใหม่ “วัยรุ่น” เพิ่มมากขึ้น จากแต่เดิมฐานลูกค้าหลักคือกลุ่มเริ่มต้นวัยทำงาน
ทำให้ First Step แรกในปีนี้ คือการปรับเปลี่ยนดีไซน์ร้านจากเดิมลุกซ์ Premuim แปรเปลี่ยนเป็น Loft Style ที่เน้นความเรียบเท่ห์โชว์ความเปลือยของวัสดุที่ผสมผสานระหว่าง อิฐ,ไม้,ปูน,เหล็ก
“ลูกค้าหลักเราคือวัยทำงานเริ่มต้น แต่ตอนนี้เราต้องการกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มเปลี่ยนชอบดีไซน์ร้านกาแฟที่ดูเรียบง่ายเก๋ๆ มากกว่าที่จะดูหรูหรา” ดาเรน ไวท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอฟเค คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของแบรนด์ “คอฟฟี่เวิลด์” บอกถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลง
โดยต่อไปนี้ สาขาใหม่ๆ ของ “คอฟฟี่เวิลด์” ที่จะเปิดในอนาคตจะใช้คอนเซ็ปต์ดีไซน์ Loft Style ในขณะที่สาขาเก่าจะค่อยๆ ทยอยปรับเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันหมด
จะไป 200 สาขาแบบ Hi-Speed ต้องไปด้วย “แฟรนไชส์”
โดยปัจจุบัน “คอฟฟี่เวิลด์” มีสาขาในประเทศไทย 100 สาขาโดยแบ่งเป็นลงทุนเอง 60 สาขา แฟรนไชส์ 40 สาขา โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 360 ล้านบาทเติบโต 10% และ “คอฟฟี่เวิลด์” นี้แหละที่เป็นแบรนด์หัวหอกสร้างรายได้หลักให้แก่บริษัท GFK สูงถึง 80% จากทั้งหมดที่มีอยู่ในมือ 5 แบรนด์
เมื่ออยู่ในสถานะเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ก็ย่อมจะต้องถูกขับเคลื่อนเป็นพิเศษทำให้ “คอฟฟี่เวิลด์” วางเป้าหมายว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2019 หรืออีก 3 ปีข้างหน้าจะต้องมี 200 สาขาในประเทศไทย โดยจะเน้นวิธีการขายแฟรนไชส์เป็นกลยุทธ์หลักในการขยายสาขาไปที่ 200 แห่งทั่วประเทศ
โดยเงินลงทุนเริ่มต้นแฟรนไชส์อยู่ที่ 1.5 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จ โดยร้านจะมีขนาดพื้นที่ 40 -120 ตารางเมตร ภายใต้สัญญา 6 ปี โดยจะมีทีมงานการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้คำปรึกษาจนผู้ลงทุนสามารถทำธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง
“ระบบแฟรนไชส์จะทำให้ธุรกิจคอฟฟี่เวิลด์เติบโตอย่างรวดเร็วและช่วยให้แบรนด์ขยายไปในวงกว้าง นี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกที่จะดูแลกลุ่มนักลงทุนแฟรนไชส์เป็นพิเศษ”
เหตุผลที่ต้องใส่ความเข้มข้นเข้าไปสู่ถ้วยกาแฟให้มากขึ้นของ “คอฟฟี่เวิลด์” เพราะ ณ เวลานี้ตลาดร้านกาแฟยังคงเติบโตต่อเนื่องทุกปี ด้วยการมีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันการแข่งขันที่รุนแรงก็ทำให้ถ้วยกาแฟที่ไม่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคก็ต้องสูญหายไปจากตลาดนี้อยู่ไม่ใช่น้อย
จึงไม่แปลกที่จะเห็นกลุ่มร้านกาแฟต่างแข่งขันกันด้วย บริการ,รสชาติของกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ตลอดจนไปถึงการจัดเวลาช่วง Promotion ซื้อ 1 แถม 1 ที่แทบจะกลายเป็นโปรโมชั่นยอดนิยมที่ทุกร้านกาแฟต้องทำ
“การแข่งขันที่จะทำให้อยู่รอดและจะทำให้ธุรกิจร้านกาแฟเติบโตคือต้องสร้าง Loyalty ให้แก่กลุ่มลูกค้าตัวเองเพราะร้านกาแฟในยุคนี้มีให้เลือกมากมาย คอฟฟี่เวิลด์ เองก็ต้องการ Loyalty จากลูกค้าโดยปัจจุบันเรามีลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิก 50,000 ราย และเมื่อถึงสิ้นปีนี้เราต้องการ 70,000 ราย”
ในขณะที่เส้นทางของ “สตาร์บัคส์” เลือกที่จะยกระดับถ้วยกาแฟของตัวเองจาก Premuim เขยิบไปสู่ Super Premuim ผิดกับเส้นทางของ “คอฟฟี่เวิลด์” ที่เลือกจะทำให้ถ้วยกาแฟของตัวเองดูเด็กลง
แต่สิ่งที่ทั้งสองแบรนด์เหมือนกันคือยังคงเร่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสร้าง Palform ใหม่ๆ ให้แก่ตัวเองเหมือนอย่างล่าสุดที่ “สตาร์บัคส์” มีรูปแบบร้านใหม่ชื่อ Reserve และ “คอฟฟี่เวิลด์” ที่เริ่มต้นไอเดียด้วยการขายกาแฟผ่านรถ Food Truck ที่เวลานี้กำลังทดลองตลาดด้วยรถเพียง 1 คัน
cr. marketeer
.
.
.
.
.
มาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเรา
COME AND BECOME ONE OF OUR LEGEND.
.
.
.
.
.
ถ้า…
คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย #กาแฟเปอร์เซีย #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์ #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย #แฟรนไชส์ #theindiantea #theindianteafranchise #franchisethailand #แฟรนไชส์เครื่องดื่ม #แฟรนไชส์กาแฟ #เปิดร้านกาแฟ #ธุรกิจร้านกาแฟ #ขายกาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟโบราณAdvertising
เคล็ดลับ 3 ข้อ ทำร้านกาแฟให้รวยตามหลักฮวงจุ้ย
1. ในกรณีที่ร้านของคุณตั้งอยู่บนถนน One Way ที่ลูกค้าสามารถย้อนกลับได้ยาก ควรมีป้ายบอกทางเข้าร้านเป็นระยะๆตามถนนก่อนถึงร้าน เพื่อบอกให้ลูกค้าขะลอความเร็วก่อนที่จะถึงร้าน และทำป้ายบอกให้ชัดเจนว่าที่ร้านเราขายอะไรหรือมีบริการอะไรให้ลูกค้าบ้าง
2. บริเวณทางเข้าหน้าร้านควรเป็นพื้นที่โล่ง ไม่ควรนำสิ่งของตกแต่งมาวางไว้หน้าร้านมากจนเกินไป เพื่อเปิดรับลูกค้าตามหลักฮวงจุ้ย
3. หน้าร้านต้องมีสิ่งเคลื่อนไหวเพื่อเสริมเรื่องโชคลาภเป็นตัวกระตุ้นให้เงินทองไหลเข้าร้าน อาทิเช่น จัดสวนหน้าร้านเล็กๆ อาจจะมี ต้นไม้ น้ำพุ หรือไฟส่องสว่างตอนกลางคืนเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นร้านได้ง่าย
CR: smartsme.tv
.
.
.
.
.
มาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเรา
COME AND BECOME ONE OF OUR LEGEND.
.
.
.
.
.
ถ้า…
คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย #กาแฟเปอร์เซีย #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์ #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย #แฟรนไชส์ #theindiantea #theindianteafranchise #franchisethailand #แฟรนไชส์เครื่องดื่ม #แฟรนไชส์กาแฟ #เปิดร้านกาแฟ #ธุรกิจร้านกาแฟ #ขายกาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
เปิดร้านกาแฟพ่วงธุรกิจเสริม ลดความเสี่ยง เพิ่มช่องทางทำเงินในเวลาเดียวกัน !!

การเปิดร้านกาแฟในรูปแบบ Stand alone เจ้าของร้านอาจจะมีความสุขกับการได้บริหารจัดการร้านด้วยตนเองในทุกขั้นตอน แต่ต้องไม่ลืมเรื่องปวดหัวกับการบริหารยอดขายให้คุ้มทุนและสร้างกำไร เพราะทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าคิดจะขายต้องขายให้รวย นั่นคือโจทย์ที่ต้องแก้ให้จบ เมื่อการลงทุนเปิดร้านกาแฟ แบบ Stand alone ค่อนข้างเป็นธุรกิจที่ ใช้เงินลงทุนสูงพอสมควร การที่จะมัวคอยหวังเม็ดเงินและผลกำไรจากการขายกาแฟเพียงอย่างเดียวน่าจะเป็นการทำธุรกิจที่ล้าสมัยไปแล้ว ผู้ลงทุนที่คิดจะเปิดร้านกาแฟ หรือเจ้าของร้านกาแฟที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว จึงควรอย่างยิ่งที่จะปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อให้กิจการอยู่รอดให้ได้
ปัจจุบันเทรนด์การเปิดร้าน กาแฟแบบ Stand alone ได้รับความนิยมจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และสิ่งที่ร้านกาแฟส่วนใหญ่นิยม ปรับใช้กับการบริหารร้านกาแฟให้ประสบความสำเร็จ คือการเพิ่มช่องทางด้วยการเสริมธุรกิจอื่นไว้กับการขายกาแฟ เช่น ร้านกาแฟ ที่มีร้านอาหารอร่อยขาย ร้านหนังสือสไตล์เท่ที่มีกาแฟรสชาติละมุน อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ที่สามารถจิบเครื่องดื่มได้ชิลล์ๆ ร้านกาแฟกลางสวนร่มไม้ใจกลางกรุง หรือกระทั่งร้านกาแฟพ่วงธุรกิจคาแคร์ สปา และรวมถึงธุรกิจอื่นที่เจ้าของธุรกิจมีความรู้ ความชำนาญ และสามารถบริหารจัดการให้ประสบความสำเร็จได้
CR: smartsme.tv
.
.
.
.
.
มาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเรา
COME AND BECOME ONE OF OUR LEGEND.
.
.
.
.
.
ถ้า…
คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย #กาแฟเปอร์เซีย #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์ #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย #แฟรนไชส์ #theindiantea #theindianteafranchise #franchisethailand #แฟรนไชส์เครื่องดื่ม #แฟรนไชส์กาแฟ #เปิดร้านกาแฟ #ธุรกิจร้านกาแฟ #ขายกาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟสด #แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
กาแฟเปอร์เซีย คืออะไร? มาจากไหน? ทำอย่างไร?

กาแฟเปอร์เซีย คืออะไร? มาจากไหน? ทำอย่างไร?
.
“กาแฟเปอร์เซีย” (Persian Coffee) มีที่มาจากวัฒนธรรมการชงกาแฟของชาวเบดูอิน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักที่อาศัยในดินแดนทะเลทราย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือชาวเปอร์เซียโบราณ ในปัจจุบันคือดินแดนหรือกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนั่นเอง
.
การรับรองแขกของชาวเบดูอินที่มาเยี่ยมเยือน ด้วยกาแฟแบบเปอร์เซียซึ่งมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน นั้นถือเป็ นการให้เกียรติอันสูงสุดต่อแขกที่มา
.
ชาวเบดูอินนั้นยังมีธรรมเนียมข้อหนึ่งว่าหากชายหนุ่ม เสนอกาแฟนี้ ให้หญิงสาว แล้วหญิงสาวรับหมายความว่า หญิงนั้นต้องแต่งงานกับหนุ่มผู้ให้ และการแต่งงานจะต้องกำหนดสินสอดเป็นจำนวนแพะหรือแกะตามแต่ระบุ
และต้องจัดพิธีฉลอง 3วัน 3คืน ในกระโจมหนังขนาดยาวของพวกเขา ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่งานหนึ่งเลยทีเดียว
.
สูตรการชง “กาแฟเปอร์เซีย” จะอยู่ที่สมุนไพรที่เราปรุงใส่ในกาแฟ ซึ่งจะทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่โดดเด่น ทั้งกลิ่นหอมและรสชาติ ซึ่งทางบริษัทเรานำเข้ามาจาก2แหล่ง ที่แรกคือ รัฐทามิลนาดูในประเทศอินเดีย และที่สองคือในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งสิ่งนี้แหละคือวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ปรุงใส่เข้าไปเพิ่มในกาแฟสูตรเปอร์เซีย
.
เคล็ดลับสูตรการชงกาแฟเปอร์เซีย ไม่ได้สำคัญอยู่ที่กาแฟที่ใช้ แต่อยู่ที่สมุนไพรที่ได้กล่าวถึงมาแล้วต่างหาก ที่เราใส่เข้าไปเพิ่ม ที่ทำให้กาแฟ มีกลิ่นหอม และรสชาติ ที่แตกต่างกันกับกาแฟอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดขึ้นมา
.
ส่วนวิธีการชงกาแฟเปอร์เซียนั้น มีได้หลากหลาย เช่นว่าใช้เครื่องทำกาแฟสดมาชงเป็นสูตรกาแฟสด หรือจะเป็นกาแฟโบราณ หรือจะชงแบบสำเร็จแบบต้มแบบดั้งเดิม หรือจะชงแบบชานมแก้วต่อแก้ว ซึ่งสามารถผสมผสานได้หลากหลายกรรมวิธี ตามคำแนะนำของทางบริษัท
.
สมุนไพรที่ใส่ใน “กาแฟเปอร์เซีย” นั้น มีสรรพคุณ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อย บำรุงธาตุบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ แก้แพ้แก้หวัด และคายความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดีซึ่งเหมาะกับประเทศไทยเรา ที่มีอากาศร้อนมาก แม้จะไม่เท่ากับอากาศในทะเลทรายของชาวเบดูอินก็ตาม
.
.
(หมายเหตุ : คำว่า “กาแฟเปอร์เซีย” และ “Persian Coffee” ได้ตั้งบัญญัติศัพย์นี้ขึ้นมาเอง และใช้มาตั้งแต่ปี2546 โดยเจ้าของบริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งได้จดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าและบริการไว้แล้ว และไม่สามารถนำไปใช้ ถ้าไม่ได้รับอนุญาติจากทางบริษัทก่อนเท่านั้น)
(สัญญลักษณ์ของแบรนด์ “กาแฟเปอร์เซีย – Persian Coffee” คือ “เทวีแห่งเปอร์เซีย” หรือ “Devi of Persia”)
.
.
.
.
.
มาและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตำนานของเรา
COME AND BECOME ONE OF OUR LEGEND.
.
.
.
.
.
ถ้า…
คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย#กาแฟเปอร์เซีย#ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์#ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย#แฟรนไชส์#theindiantea#theindianteafranchise#franchisethailand#แฟรนไชส์เครื่องดื่ม#แฟรนไชส์กาแฟ#เปิดร้านกาแฟ#ธุรกิจร้านกาแฟ#ขายกาแฟสด#แฟรนไชส์กาแฟสด#แฟรนไชส์กาแฟโบราณ
รวมฮิตร้านกาแฟแฟรนไชส์ยอดนิยมขายดีที่สุดในประเทศไทย, แฟรนไชส์กาแฟ, แฟรนไชส์, ขายกาแฟ, ร้านกาแฟสด, กาแฟสด, ขายกาแฟสด, แฟรนไชส์กาแฟสด, เปิดร้านกาแฟ, ธุรกิจร้านกาแฟ, ร้านกาแฟโบราณ, สูตรกาแฟสด,ธุรกิจร้านกาแฟสด, แฟรนไชส์กาแฟโบราณ, อยากขายกาแฟ, อยากเปิดร้านกาแฟ, เปิดร้านกาแฟ, ร้านกาแฟสด, ขายกาแฟสด, แฟรนไชส์, ขายกาแฟ,กาแฟบรรจุขวด, ธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟ, ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ, แฟรนไชส์กาแฟสด, แฟรนไชส์ขายดี, กาแฟโบราณ, กาแฟสด, ธุรกิจร้านกาแฟ, สูตรกาแฟสด, เปิดร้านกาแฟสด, แฟรนไชส์กาแฟโบราณ, แฟรนไชส์ชาไข่มุก, ชานมไข่มุก, แฟรนไชส์กาแฟนมสด, แฟรนไชส์กาแฟถุงกระดาษ, แฟรนไชส์ร้านกาแฟ, แฟรนไชส์นมสดปั่น, กาแฟถุงกระดาษ, ขายกาแฟโบราณ, ร้านกาแฟโบราณ, แฟรนไชส์กำไรดี, ต้องการเปิดร้านกาแฟ, ชาอัดขวด, ชาบรรจุขวด,กาแฟอัดขวด, ธุรกิจร้านกาแฟสด, แฟรนไชส์เครื่องดื่ม, แฟรนไชส์ชานมไข่มุก,เปิดร้านชานมไข่มุก, เครื่องชงกาแฟ, ขายเครื่องชงกาแฟ, ขายเครื่องชงกาแฟสด, เปิดร้านนมสด, ขายนมสด, สนใจเปิดร้านกาแฟ, ลงทุนเปิดร้านกาแฟ, เริ่มต้นเปิดร้านกาแฟ, ขายใบชาอินเดีย, ขายใบชาอัสสัม, ร้านกาแฟสดแฟรนไชส์,แฟรนไชส์ขายดี, แฟรนไชส์ร้านกาแฟสด, แฟรนไชส์น้ำผลไม้, แฟรนไชส์กาแฟนมสด, แฟรนไชส์น้ำผึ้งมะนาว, แฟรนชส์น้ำผึ้งนมสด, ขายเมล็ดกาแฟ, ขายอุปกรณ์ชงกาแฟ, แฟรนไชส์กาแฟสดราคาถูก, แฟรนไชส์กาแฟสดต้นทุนต่ำ,แฟรนไชส์กาแฟสดลงทุนน้อย, เครื่องชงกาแฟ, เครื่องบดกาแฟ, เครื่องปั่นน้ำผลไม้, อุปกรณ์เปิดร้านกาแฟสดครบวงจร, แฟรนไชส์น้ำปั่นสมูทตี้, ร้านกาแฟอินดี้, ร้านน้ำปั่น, ร้านนมสด, และร้านชาไต้หวันในร้านเดียวกัน, แฟรนไชส์ลงทุนน้อยที่สุด, อุปกรณ์เปิดร้านกาแฟ, อุปกรณ์ชงกาแฟ, ออกแบบตกแต่งร้านกาแฟ,เคาน์เตอร์กาแฟ, ป้ายเมนูกาแฟ, สอนชงกาแฟ, เรียนชงกาแฟ, ชงชาชัก, ร้านชาชัก, เรียนชงชาชัก, แฟรนไชส์ชาชัก, เปิดร้านชาชัก, ขายชาใต้, ขายชามาเลย์,ขายชาตรามือ, ขายชาซีลอน, แฟรนไชส์ชาชักขายดี,
เมนู ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย

เมนู ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย
.
.
สูตรชงสำเร็จ/สูตรชงแก้วต่อแก้ว 5 รส (เย็น/ร้อน)
(1) กาแฟเปอร์เซีย Persian Coffee
(2) ชานม มาซาล่า Masala Milk Tea
(3) ชานม การ์ดาม่อม Cardamom Milk Tea
(4) ชานม น้ำผึ้ง Honey Milk Tea
(5) ชาดำ Black Tea
.
.
สูตรกาแฟสด 5 รส (เย็น/ร้อน)
(1) เปอร์เชี่ยน เอสเปรสโซ Persian Espresso
(2) เปอร์เชี่ยน คาปูชิโน Persian Cappuccino
(3) เปอร์เชี่ยน ลาเต้ Persian Latte
(4) เปอร์เชี่ยน มอคคา Persian Mocca
(5) เปอร์เชี่ยน โกโก้ Persian Cocoa
.
.
ผสมสมุนไพรต่างๆเช่น อบเชย กานพลู ใบเบย์ ขิง พริกไทยดำ กระวาน น้ำผึ้ง ฯลฯ
.
.
ถ้าคุณขายชากาแฟอยู่แล้วก็นำไปเสริมเมนูได้เลย หรืออยากเปิดร้านใหม่เป็นเจ้าของธุรกิจก็ทำได้ง่ายๆ ทั้งแบบใส่แก้วหรืออัดบรรจุขวด
.
.
เมนูเราจะแตกต่างจากร้านอื่นๆโดยสิ้นเชิง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของเราคือคนที่มีร้านกาแฟอยู่แล้วไปเสริมเมนูเราในร้านเพื่อสร้างความแตกต่างให้ร้าน
.
.
และมีอีกเยอะที่นำวัตถุดิบในแฟรนไชส์เราไปปรับผสมกับวัตถุดิบของตัวเองเพื่อสร้างซิกเนเจอร์ใหม่ๆ ตั้งชื่อเมนูใหม่ให้ร้านตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็มีแต่เมนูเดิมๆซะส่วนใหญ่
.
.
การชงชากาแฟคืองานศิลปะไม่มีกฎเกณท์มาปิดกั้นออกแบบเมนูกันได้หลากหลายตามชอบได้เลย
.
.
.
.
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
.
PERFECT DESTINY INTERNATIONAL CO., LTD.
บริษัท เพอร์เฟกต์ เดสทินี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เลขที่ 927/199 ซอยลาดพร้าว87 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
Website: http://www.theindiantea.com/main/index.html#
Line Official ID : @theindiantea (0846825999)
โทร: 084-682-5999 , 092-369-3951
#ชาอินเดีย #กาแฟเปอร์เซีย #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซียแฟรนไชส์ #ชาอินเดียกาแฟเปอร์เซีย #แฟรนไชส์ #theindiantea #theindianteafranchise #franchisethailand #แฟรนไชส์เครื่องดื่ม
อย่าเปิดร้านกาแฟ เพราะ ช้า หรือ เร็ว คุณต้องปิดอยู่ดี ถ้า… . .

อย่าเปิดร้านกาแฟ
เพราะ ช้า หรือ เร็ว
คุณต้องปิดอยู่ดี ถ้า…
.
.
เพราะอะไรหรือ?
.
ก่อนที่จะเปิดร้านกาแฟ ลองถามตัวเองดูก่อนว่า
.
เราอยากขายกาแฟไปตลอดชีวิตหรือไม่?
หรืออยากหารายได้พิเศษ?
หรือรายได้หลัก?
หรืออยากใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากกว่า?
หรือเป็นความใฝ่ฝันที่อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง?
หรืออะไรกันแน่?
.
มีเหตุผลมากมาย ที่ทำให้เรา อยากเปิดร้านกาแฟ การปิดตัวลงของร้าน ก็เช่นกัน
.
มีหลายร้าน ที่ปิดตัวลง เพราะขายดีเกินไป แล้วทำไม่ไหวบ้าง เบื่อบ้าง ขี้เกียจทำบ้าง
.
ส่วนร้านที่ขายไม่ดี ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่นาน ก็ต้องปิดอยู่ดี
.
มีเหตุผลอีกมากมายนับไม่ถ้วน เช่น ได้งานใหม่ คลอดลูก ไม่สบาย แต่งงาน ย้ายที่อยู่ ขึ้นค่าเช่า ไม่ต่อสัญญา ทะเลาะกับหุ้นส่วน ลูกจ้างลาออก น้ำท่วม ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เจอคู่แข่ง ญาติเสีย เชื่อหมอดู ฝันไม่ดี ทะเลาะกับแฟน อกหัก โดนขโมย โดนโกง โดนไล่ที่ ฯลฯ
.
ปัญหาหลัก อยู่ที่เรื่องเงินหรือไม่ หรืออยู่ที่ เรารัก เราชอบ เรามีความสุข เราชัดเจน ที่จะทำมันจริงมากแค่ไหน
.
ความอร่อย ไม่อร่อย ใช่ปัจจัยหลัก หรือไม่ ที่จะทำให้ร้านเรารอด หรือไม่รอด หรือจะเป็นว่า อร่อยเค้า แต่ไม่อร่อยเรา หรือกลับกันหรือเปล่า หรือกินของอร่อยบ่อยๆ จนรู้สึกเบื่อ และกลายเป็นไม่อร่อย ไปเสียแล้ว
.
การชงกาแฟคือศิลปะล้วนๆ ไม่มีผิด ไม่มีถูก ไม่มีอร่อย ไม่มีไม่อร่อย คุณมองเห็นเป็นแบบนี้หรือเปล่า
.
ใช้ความชอบของตัวเองเป็นเกณฑ์ แล้วพยายามให้คนอื่น มาชอบแบบเดียวกับเราหรือเปล่า
.
สิ่งที่มีให้เห็นอยู่เต็มไปหมด คือ การตลาด และ เทคนิกการขาย ของหลายๆที่เค้าโคตรดี ดีจนสามารถทำให้ขายของห่วยๆได้ ซึ่งของห่วยๆที่ว่า ก็เป็นของที่ดีมาก ชอบมาก ของใครอีกหลายๆคน
.
เปิดร้านเหมือนๆกับคนอื่นๆ ไม่มีอะไรแตกต่าง ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่มีเอกลักษณ์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับร้านของเรา
.
จะเปิดไปเพื่ออะไร ถ้าจะทำแค่ให้เหมือนร้านอื่นๆ ในแวดวง ก็ไม่จำเป็นต้องมีคุณอยู่
.
ต่อให้สุดท้ายคุณต้องปิด ก็ให้คุณปิดเพราะได้พยายามทำ ในสิ่งที่คุณเชื่อ มันดีกว่าปิด เพราะไปเลียนแบบคนอื่น มากมาย
.
สุดท้ายแล้ว… เมื่อคุณปิด ก็จะมีคนเปิดขึ้นมาอีก เปิดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะตามสถิติ ความต้องการ ของคนดื่มชากาแฟ มีมากขึ้นเรื่อยๆ และ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก มากถึงเท่าตัว และนี่แหละคือ ความจริง
.
.
.
.
.
ถ้า…คุณเปิดร้านกาแฟอยู่แล้ว
หรือ
อยากเปิดร้านกาแฟใหม่
.
Add Line คลิ๊ก
==> http://line.me/ti/p/%40theindiantea
.
.
.
.
แฟรนไชส์กาแฟ THE INDIAN TEA อัตราการเจริญเติบโตและเป้าหมายในปี 2555
– แฟรนไชส์กาแฟ THE INDIAN TEA ความเติบโตของธุรกิจจนถึงปัจจุบัน
สำหรับ SME แฟรนไชส์กาแฟเล็กๆอย่างเราถือได้ว่าเติบโตพอสมควร
|
ปี พศ. |
จำนวนสาขา |
เปลี่ยนแปลง |
|
2550 |
61 |
|
|
2551 |
111 |
เพิ่มขึ้น 82% |
|
2552 |
161 |
เพิ่มขึ้น 46% |
|
2553 |
211 |
เพิ่มขึ้น 32% |
|
2554 |
311 |
เพิ่มขึ้น 48% |
ข้อมูลการเติบโต แฟรนไชส์กาแฟ จาก ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ โดยเป็นข้อมูลที่เราให้ไว้และเก็บมาเรื่อยๆ เป็นสาขาที่มีการเปิดร้านกาแฟขึ้นในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ต้องทำความเข้าใจนิดนึงว่ามีที่เปิดขึ้นและปิดลงสลับกันไป ที่ปิดก็ไม่ใช่เพราะขายไม่ได้หรือขายไม่ดีเสมอไป เพราะเหตุผลต้องการไปดำเนินธุรกิจอย่างอื่นต่อก็มี ธุรกิจขายกาแฟและชานี้เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทำเลเป็นหลักหากทำเลดี คู่แข่งไม่มากเกินไป เมนูหลากหลาย มีเบเกอร์รี่สูตรเฉพาะที่เป็นจุดเด่นของร้าน มีความมุ่งมั่น ไม่ล้มเลิกง่ายๆและความขยัน ย่อมขายดี สาขาที่ประสบความสำเร็จเด่นๆ ก็จะมี ร้านบ้านย่าล้วน สุขุมวิท 105 ซอยลาซาล 41,ถนนพระยาสุเรนทร์,ข้างห้างสิริบรรณ จังหวัดตรัง,สะพานใหม่,สระแก้ว,นครสวรรค์,โรงพยาบาลหาดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งสาขาที่ลงทุนระดับ 100,000 บาทขึ้นไป ยังไม่มีที่ใดไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนนอกนั้นเป็นสาขาที่ลงทุน 6,900 – 39,000
– อายุธุรกิจ
เปิดทำการตั้งแต่ปี 2546 โดยช่วงปีแรก ขายแฟรนไชส์หรือขายไอเดียนี้ไม่ค่อยได้มากนักเน้นเปิดร้านขายเองมากกว่า ขณะนี้เป็นเวลา 9 ปีแล้ว
– วิเคราะห์ตลาดภาพรวมของธุรกิจที่ทำอยู่
เนื่องจากเราเป็นร้านกาแฟที่เน้นเปิดตลาดในสเกลเล็ก ลงทุนต่ำจึงมีช่องว่างอีกมากที่จะสามารถเปิดได้ จึงคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยจะสูงขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศไทย ในด้านเราเองรักษาระดับให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% ต่อปี ร้านสามารถมีได้ทุกซอก ทุกซอย เนื่องจากเป็นร้านขายน้ำ ที่มีเมนูกาแฟและชาชงสำเร็จหรือเมนูกาแฟสด ตัวเลขในปี 54 ที่ 311 สาขา เราเชื่อมั่นว่าหากการประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีงบลงทุนที่เพียงพอ จะให้มี 1,000 สาขาในปี 55 ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ สำหรับการเติบโตในปีหน้าเราตั้งเป้าไว้ที่ 50% = 622 สาขา ไม่ต้องถึง 1,000 เป็นเงินประมาณ 3 แสนกว่าบาทต่อเดือน และเป็นเงินประมาณ 4ล้านกว่าบาทต่อปี โดยงบการตลาดอยู่ที่ 15% ประมาณ 50,000 ต่อเดือน หรือ 600,000 บาทต่อปี
หากให้วิเคราะห์ตลาดเราแข่งขันอยู่ในตลาดวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการเปิดร้านขายกาแฟ ในรูปแบบแฟรนไชส์แบบเหมาซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์แถมแบรนด์ไปใช้ได้ คล้ายคลึงกับเนสเล่หรือแฟรนไชส์กาแฟทั่วไป ซึ่งตีโดยรวมจาก 100% เรามองว่าเรากินส่วนแบ่งแชร์จากมูลค่าตลาดรวมไม่ถึง 5% คิดง่ายๆ หากในจังหวัดกรุงเทพฯมีแบรนด์เนสเล่เปิดไปแล้ว 200 สาขา เจ้าอื่นๆเปิดกันเป็น 50 เป็นร้อย เรามีแค่ 3-5 , ให้วิเคราะห์ก็คือ แบรนด์เรายังไม่ติดลมบนยังไม่เป็นที่รู้จักและนิยมของผู้ประกอบการในการเปิดร้าน ด้านการตลาดเรายังไม่แข็งแรงพอ เรายังไม่เป็นที่รูปจักเหมือนแบรนด์ร้านกาแฟสเกลขนาดกลางถึงใหญ่อย่าง อเมซอน,ชาวดอย,สตาร์บัค,โอบองแบง, สเกลเล็กถึงกลางอย่างคอฟฟี่ดรีม,บลูเมาท์เทนคอฟฟี่,กาแฟสดเด่นชัย,เนสเล่หรือแบรนด์กาแฟอื่นๆ จึงมีโอกาสอีกมากที่จะทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จัก เทียบเท่าแบรนด์กาแฟชั้นนำ เราถือว่าธุรกิจที่อยู่ในข่ายของการสร้างแบรนด์สาขาอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเราในแง่ของมุมมองแบบการสร้างแบรนด์ แต่หากเป็นแง่ของแฟรนไชส์ ต้องบอกว่าเราไม่ใช่แฟรนไชส์เพราะไม่มีการเก็บส่วนแบ่งหรือรอยัลตี้ฟีใดๆเป็นธุรกิจขายไอเดีย ขายแบรนด์ ขายวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ หากมองในแง่นี้เราจะอยู่ในอีกกลุ่มหนึ่ง โดบภาพรวมของตลาดมองว่าธุรกิจนี้มีการเติบโตที่สูงมาตลอด แต่ละพื้นที่มักมีผู้จับจองทำเลในการขายและประสบความสำเร็จเป็นเจ้าประจำได้อยู่ในแต่ละจุดและก็ยังมีช่องว่างในทำเลแต่ละแห่งอีกมากที่สามารถเปิดเพิ่มได้ หรือเมื่อมีผู้ปิดร้านหรือเซ้งร้านก็สามารถเปิดได้ ธุรกิจนี้ยังไปได้แม้จะมีการแข่งขันกันที่รุนแรง มีผู้เล่นรายใหม่ปรากฏขึ้นทุกปีก็ตาม ซึ่งก็เกิดใหม่และหายไปทุกปีเช่นกันจะเหลือแต่แบรนด์หลักๆที่อยู่รอด เราจึงมองว่าตลาดนี้ต้องควบคุมและวางแผนการใช้เงินลงทุนในค่าการตลาดดีๆ ใช้เงินให้คุ้มค่าในการทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักและมีความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายเราคือผู้มีความต้องการเปิดร้านกาแฟหรือร้านขายกาแฟและผู้มีร้านกากาแฟหรือร้านขายน้ำอยู่แล้ว ไปจนถึงร้านอาหารหรือเบเกอร์รี่ ล่าสุดร้านก๋วยเตี๋ยวที่เอาเราไปเปิดเสริม เราจึงแบ่งตลาดตามประเภทดังกล่าวข้างต้น ที่บอกได้ตรงๆว่าวันนี้เรายังขยายตลาดไม่ถึงไหนเลยจึงมีโอกาสไปได้อีกไกล
– ความโดดเด่น จุดขาย ของสินค้าที่แตกต่างจากคู่ค้าไลน์เดียวกัน
ความโดดเด่นตรงที่เราเป็นแบรนด์ที่สื่อในด้านวัฒนธรรมการดื่มใหม่ๆที่ยังไม่มีในเมืองไทย แม้จะมีมาหลายร้อยปีแล้วในต่างประเทศก็ตาม จุดขายคือการนำสิ่งที่เป็นที่นิยมในวัฒนธรรมหนึ่งให้เป็นที่นิยมในอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งที่จุดกำเนิดของวัฒนธรรมนี้เขาฮิตกันได้ ทำไมที่นี่จะฮิตติดลมบนไม่ได้ เมื่อถึงวันหนึ่งมีลูกค้าประจำสะสม มีผู้ชื่นชอบมากขึ้นเราก็จะโตขึ้นและเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น
แตกต่างจากคู่แข่งมากตรงเมนูชาและเมนูกาแฟที่แต่ละเมนูที่ขายยังไม่มีใครเหมือนเรา
– ลักษณะรายละเอียดสินค้า
1.ด้านวัตถุดิบ ใบชา เป็นใบชาอัสสัม จากรัฐอัสสัมของอินเดีย เครื่องปรุงเป็นสมุนไพรสูตรเฉพาะที่เราปรุงขึ้น ซึ่งเป็นสมุนไพรอินเดีย ประกอบด้วย ผลกระวานเทศเขียว ขิง พริกไทยดำ ใบกระวาน อบเชย กานพลู
2.ด้านอุปกรณ์ คัดคุณภาพ ไม่มีวันลดต้นทุนโดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีคุณภาพ ตัวอย่างอุปกรณ์เช่น เครื่องทำกาแฟสด เครื่องบดเมล็ดกาแฟ เตาต้ม หม้อต้ม ขวดโหลโลโก้ กระบอกน้ำทนความร้อน บิกก้า เหยือกตวง ช้อนตวง ฯลฯ
3.ด้านไอเดีย แบรนด์ THE INDIAN TEA
– ราคาจำหน่าย ปลีก-ส่ง
ขายเป็นชุดเริ่มต้น 6,900 – 130,000
– เสียงตอบรับจากผู้บริโภค
ดีมาก มีผู้นิยมเพิ่มขึ้นและขยายตัวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
– ทำเลที่เหมาะสมกับธุรกิจ
ตามแหล่งชุมชน เด่นๆคือ ตลาดนัด,โรงพยาบาล,รถเข็นขายกาแฟคลื่อนที่
– ความน่าสนใจต่อการลงทุนในธุรกิจ / ทำไมจึงต้องเลือกลงทุนร่วมกับเรา
ลงทุนต่ำคืนทุนเร็ว หากขาดทุนยังไงไม่เจ็บตัวมาก ควบคุมงบประมาณในการเปิดร้านได้ แบรนด์สะดุดตามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร แนะรูปแบบการลงทุนอย่างประหยัดและเหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จฟรี หัวข้อนี้ไม่ต้องการขายฝันมาก การลงทุนมีความเสี่ยง ควรระมัดระวังและควบคุมค่าใช้จ่ายและหาทำเลที่ดีที่สุด ควรมีสายป่านในการประกอบการที่ยาวเพียงพอให้อยู่ได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หัวข้อสรุปความน่าสนใจต่อการลงทุนในธุรกิจดังรายละเอียดด้านล่าง
1.ลงทุนต่ำเริ่มต้นเพียง 6,900 – 130,000 บาท
2.เปิดร้านเป็นแบรนด์ของตนเองได้ เปิดร้านกาแฟสด กับแฟรนไชส์กาแฟสดหรือเปิดเป็นแบรนด์ของตัวเอง
3.ใช้แบรนด์ของเราได้เต็มที่ไม่มีค่าใช้จ่ายรายปี รายเดือน
4.จ่ายครั้งเดียวจบ จ่ายครั้งแรกเหมือนค่าแรกเข้าและได้อุปกรณ์ตามรูปแบบการลงทุน
5.วัตถุดิบไม่บังคับว่าต้องซื้อกับเราตลอด หมดก็มาซื้อกับเรา หรือสะดวกซื้อที่อื่นก็ไม่ว่า แต่ถ้าซื้อกับเราก็เป็นการอุดหนุนกันไป
6.เงินที่ได้จากกำไร เรานำไปสร้างแบรนด์ขายฐานให้เมนูชา กาแฟเรามีชื่อเสียงต่อไป ให้ที่เคยขายดี ได้ขายดียิ่งๆขึ้นไป มีน้อยทำน้อย มีเยอะทำเยอะ
7.มีการเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์อื่นๆและเลือกด้วยความชอบส่วนตัวหรือเห็นว่าคุ้มค่าและเป็นอีกสไตล์ที่น่าลงทุน ตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ การเลือกซื้อแฟรนไชส์กาแฟสดและการประกอบธุรกิจกาแฟสดให้ประสบความสำเร็จ
– เงื่อนไขการลงทุน รูปแบบการลงทุน งบการลงทุน
5 รูปแบบการลงทุน
(1) โปรโมชั่นพิเศษ 6,900 บาท (สูตรกาแฟชงสำเร็จ)
(ป้ายร้าน, ป้ายเมนูตั้งพื้น, ป้ายโลโก้, พร้อมคู่มือวิธีการ 1 เล่ม และวัตถุดิบใบชา-กาแฟ-เครื่องปรุงฯรวมทำได้ 1,000 แก้ว)
(2) 19,000 บาท (สูตรกาแฟชงสำเร็จ)
(ป้ายร้าน, ป้ายเมนูตั้งพื้น, ป้ายโลโก้, พร้อมคู่มือวิธีการ 1 เล่ม, วัตถุดิบใบชา-กาแฟ-เครื่องปรุงฯรวมทำได้ 2,000 แก้ว และเพิ่มอุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุด)
(3) 39,000 บาท (สูตรกาแฟชงสำเร็จ)
(ป้ายร้าน, ป้ายเมนูตั้งพื้น, ป้ายโลโก้, พร้อมคู่มือวิธีการ 1 เล่ม, วัตถุดิบใบชา-กาแฟ-เครื่องปรุงฯรวมทำได้ 2,000 แก้ว, อุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุด และเพิ่ม KIOSK ร้านขนาด 1.2 เมตร)
(4) 110,000 บาท (สูตรกาแฟสด + สูตรกาแฟชงสำเร็จ)
(ป้ายร้าน, ป้ายเมนูตั้งพื้น, ป้ายโลโก้, อบรมวิธีการทำพร้อมคู่มือ, วัตถุดิบใบชา-กาแฟ-เครื่องปรุงฯรวมทำได้ 2,000 แก้ว, อุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุดของชาอินเดีย , และเพิ่มเครื่องทำกาแฟสดพร้อมอุปกรณ์ครบชุด สำหรับทำกาแฟเปอร์เซียสูตรกาแฟสดรวม5รสคือ 1.Persian Espresso 2.Persian Cappuccino 3.Persian Latte 4.Persian Mocca 5.Persian Cocoa)
(5) 130,000 บาท (สูตรกาแฟสด + สูตรกาแฟชงสำเร็จ)
(ป้ายร้าน, ป้ายเมนูตั้งพื้น, ป้ายโลโก้, อบรมวิธีการทำพร้อมคู่มือ, วัตถุดิบใบชา-กาแฟ-เครื่องปรุงฯรวมทำได้ 2,000 แก้ว, อุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุดของชาอินเดีย , เครื่องทำกาแฟสดพร้อมอุปกรณ์ครบชุด สำหรับทำกาแฟเปอร์เซียสูตรกาแฟสดรวม5รสคือ 1.Persian Espresso 2.Persian Cappuccino 3.Persian Latte 4.Persian Mocca 5.Persian Cocoa, และเพิ่ม KIOSKร้านขนาด 1.2เมตร)
* ฟรี ! ค่าแฟรนไชส์*
* ไม่เสียค่า Loyalty Fee*
* ไม่หักเปอร์เซ็นต์การขาย*
* เป็นเจ้าของร้านได้เต็มตัว*
* ฟรี! อบรมวิธีการทำ พร้อมทำขายได้ทันที*
* หรือ! สำหรับ ผู้ที่สนใจแฟรนไชส์ แต่ไม่สะดวกเดินทางมาอบรมที่กรุงเทพฯ(ซอย ลาดพร้าว87) ทาง เราจะจัดส่งสินค้าไปให้ทางไปรษณีย์พร้อมคู่มือการทำชาอินเดีย-กาแฟเปอร์ เซียโดยละเอียดครับ ซึ่งสามารถทำตามขั้นตอนจากคู่มือได้ง่าย
– ประมาณการรายได้/เดือนหรือกำไรเบื้องต้น
ราคาขายนั้นแต่ละที่จะขายราคาไม่เท่ากันจะขึ้นอยู่กับทำเลและค่าเช่าเป็นหลักแต่สิ่งที่ต้องรู้ก่อนก็คือต้นทุนต่อหนึ่งแก้วคือเท่าไหร่ ต้นทุนต่อหนึ่งแก้วของเราจะอยู่ที่ 6-7 บาท ต้นทุนนี้รวมทุกอย่างพร้อมเสริฟให้ลูกค้าแล้ว คือรวม แก้ว ฝา หลอด น้ำชา น้ำแข็ง พร้อมเสริฟ ราคาขายที่นิยมขายกันมากที่สุดคือแก้วละ 20 บาท แต่ละที่ขายราคาไม่เท่ากัน เช่น บางท่านเปิดขายหน้าบ้านตัวเองแบบไม่เสียค่าเช่าเลย นำไปขายแก้วละ 15 บาท ก็มี สำหรับราคาขายแพงสุดที่ขายคือ 50-60 บาทก็มี คือประเภทค่าเช่า 5-6 หมื่นบาทตามในห้างใหญ่ๆ แต่ถ้าประเภททำเล บิ๊กซีหรือโลตัส ค่าเช่าประมาณ 10,000 – 20,000 บาทนั้น จะขายกันแก้วละ 30-35-40 บาท แต่หากเป็นตามตลาดนัดทั้งหลายหรือเช่าหน้าร้าน จะขายกัน 20-25 บาท ราคาขายเหล่านี้ทางเราจะช่วยแนะนำว่าควรจะขายเท่าไหร่ให้เหมาะสมกับทำเลและค่าเช่าที่ท่านจะเปิดร้าน เราสามารถทำอัดขวดขายให้ลูกค้านำกลับบ้านก็สามารถทำได้
วิธีการคำนวณจุดคุ้มทุนเราจะแนะนำง่ายๆเช่น
ทำเลตลาดนัดค่าเช่าวันละ 50 – 100 บาท เป็นเดือนละ1500-3000บาท
|
ต้นทุนต่อแก้ว |
7 |
(บาท/แก้ว) |
|
ค่าเช่า |
3 |
(บาท/แก้ว) |
|
รวมต้นทุน |
10 |
(บาท/แก้ว) |
|
ราคาขาย |
20 |
(บาท/แก้ว) |
|
ถ้าขายได้ 20 แก้วต่อวัน |
20X20X30= |
12,000 (บาท/เดือน) |
|
หักต้นทุน |
10X20X30= |
6,000 (บาท/เดือน) |
|
กำไร |
6,000(บาท/เดือน) |
หมายเหตุ ใช้ยอดขายต่ำที่สุดต่อวันที่ควรจะขายได้คือวันละ 20 แก้ว เป็นกำไรที่ควรจะได้ขั้นต่ำในแต่ละเดือน แต่ในความเป็นจริงยอดขายควรจะเป็น 50-100 แก้วต่อวัน หรือถ้าที่คนเยอะจริงๆ ก็ควรจะอยู่ที่ 150-200 แก้วต่อวัน ตามข้อมูลด้านบนเป็นยอดขายที่แย่ที่สุดแล้ว ซึ่งเราควรจะพิจารณาว่าทำเลที่เราจะไปเปิดร้านขายนั้นจะได้ถึงวันละ 20 แก้วหรือไม่ และเราต้องดูอีกว่าทำเลที่เราไปขายนั้นขายทุกวัน ขายทั้งวันหรือเปล่า หรือขายได้แค่จันทร์ถึงศุกร์หรือเสาร์อาทิตย์หรือขายแค่ช่วงบ่ายหรือขายแค่ช่วงเช้าอย่างเดียว
– แผนการตลาด/กลยุทธ์การตลาด ปี 2555
ทำความรู้จักกับสื่อมากขึ้นแบ่งแยกประเภทช่องทางการกระจายข่าวสารไปยังผู้ประกอบการที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งวัดผลที่ได้รับ ควบคุมต้นทุนการใช้จ่ายด้านงบการตลาดให้คุ้มค่า
1.ประชาสัมพันธ์ในเว็บที่มีกลุ่มเป้าหมายเข้าชมให้ครอบคลุม ยังมีอีกหลายเว็บที่เราไม่ได้ใส่ใจและเว็บต่างๆเหล่านั้นจะเป็นกำลังเสริมที่จะพัฒนาผลักดันเราให้เติบโตขึ้นได้
2.Social Network Marketing ปกติเรามีการอับเดทผ่านช่องทางนี้และรวมกลุ่มผู้สนใจลงทุนรวมทั้งผู้ที่สนใจติดตาม ผู้ที่อยากทดลองทานเข้ามาไว้ในจุดๆเดียวกันซึ่งมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่องทางนี้เรามองว่าเป็นการสร้าง คอมมูนิตี้อย่างหนึ่งที่ลูกค้าสามารถวิพากย์วิจารณ์ได้ สื่อสามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้ และเราสามารถตอบกลับไปยังลูกค้าได้ทันที (real time)
3.Tele Marketing คนที่สนใจตลอดมามีการเก็บข้อมูลเบอร์ติดต่อและที่อยู่ไว้ที่สามารถติดตามอับเดทข้อมูลได้ตลอดเวลาถึงความเคลื่อนไหวของเราและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเราที่เขาอาจสนใจ
4.E-Mail Marketing เราไม่ส่งสแปมเมล์ เรามีรอบระยะเวลาในการส่งและส่งไปยังกลุ่มผู้สนใจที่ติดต่อเราเข้ามาและให้อีเมล์กับเราไว้เท่านั้น และส่งเฉพาะข้อมูลที่เป็นประโยชน์เช่นทำเลใหม่ๆในการเปิดร้านขายของ ทำเลเปิดร้านกาแฟ การอับเดทความเป็นไปของบริษัท โดยข้อมูลจะไม่เป็นข้อมูลซ้ำๆกันในการส่งเข้าไปให้ผู้ที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วและลูกค้ามุ่งหวังในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเรามีข้อมูลลูกค้ากว่า 3,000 ราย และไม่มีการขายข้อมูลนี้ให้กับที่อื่นเด็ดขาด
5.สื่อวิทยุและนิตยสาร ไม่เน้นเพราะที่ผ่านมาไม่ได้ผลแต่ยังไม่ทิ้ง มีโอกาสจะเลือกพิจารณา เลือกลงเป็นบางโอกาส ที่ไม่ได้ผลเพราะเราไม่มีทุนเพียงพอที่จะลงแบบต่อเนื่องหากลงต่อเนื่องเชื่อว่าได้ผลแน่นอนแต่ต้นทุนในการประชาสัมพันธ์สูงเกินไปไม่คุ้มกับรายรับเราจึงมองว่าช่องทางอื่นๆได้ผลมากกว่า ในระดับการลงทุนที่เท่ากัน วิทยุและนิตยสารมีติดต่อมาสัมภาษณ์ฟรีปีหนึ่งๆหลายแห่ง ขอขอบพระคุณ
6.หนังสือพิมพ์ อับเดทข้อมูลข่าวสารไปยังสื่อต่างๆมากขึ้น เขาจะทำข่าวให้เราหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครมาทำข่าวนับว่ายังน้อยมาก สงสัยธุรกิจเราเล็กเกินไป T_T
7.การออกบูธ เน้นการออกงานแฟร์ต่างๆ ให้ความสำคัญสูงเพราะนี่คือภาพลักษณ์ของแบรนด์ภาพที่สื่อถึงความมีตัวตนของแบรนด์ และการได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและสนใจจริงๆ มีโอกาสสูง ที่ผ่านมาลูกค้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจลงทุนก็แวะมาเยี่ยมเราในงานแวะมาดูเราในงานและดูธุรกิจอื่นไปพร้อมกัน จึงเป็นช่องทางสำคัญในการ remind ลูกค้าในด้านต่างๆ การเตือนความจำว่าเรายังรอเขาลงทุนกับเราอยู่ หากผู้ที่กำลังหาทำเลเราก็ยังอยู่ตรงนี้ยังรอคุณอยู่เสมอ รวมทั้งการหาลูกค้าใหม่ๆที่สนใจลงทุนด้านนี้การออกบูธนับว่าสำคัญมาก และงานที่มีนักข่าวเดินก็มักจะได้ลงข่าวอับเดทธุรกิจของเราเป็นของแถมในหนังสือพิมพ์อีกด้วย อีกทั้งเป็นการเพิ่มจำนวนคนที่รู้จักกิจการให้มีมากขึ้นเพื่อสร้างการบอกต่อหรือ viral marketing ที่สำคัญมากเป็นอันดับต้นๆ เพราะเขาได้สัมผัสภาพจริงได้เห็นของจริงและได้สัมผัสกับเราโดยตรง
การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายและการสร้างแบรนด์ให้ฮิตติดตลาดเป็นสิ่งที่เราดำรงไว้เสมอมา การรวบรวมความคิดเห็นผู้ที่เคยได้ดื่มได้ชิมเป็นเรื่องที่เราใส่ใจมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญกับ content management หรือการบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ซึ่งการจะเป็นแบรนด์ที่มีคนสนใจจำเป็นจะต้องมีเรื่องราวใหม่ๆอับเดทอยู่ตลอดเวลา และเรื่องราวเก่าๆที่จะต้องเก่าแบบคลาสสิกคือมีคนสนใจศึกษาไม่เสื่อมคลาย ด้านการจัดการวัตถุดิบและอุปกรณ์เลือกสรรเฉพาะที่มีคุณภาพ คงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือสำหรับผู้บริโภคและผู้ร่วมลงทุนสร้างแบรนด์ไปพร้อมกับเรา กลยุทธ์เราคือการใส่ใจในทุกรายละเอียดและพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไป เข้าถึงสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้พร้อมลงทุนร่วมไปกับเรา กลยุทธ์การตลาดในปี 2555 จะการสื่อสารไปยังช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อเข้าถึงตลาดที่ไม่มีวันหลับและกระหายการลงทุนประกอบธุรกิจนี้ รวมทั้งร่วมสร้างสิ่งต่างๆให้เป็นจริงอย่างยั่งยืน
การสร้างกระแสฮิต ติดลมบนจึงเป็นเรื่องของการบริหารช่องทางการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารโดยตรงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ เราจะเรียกกลยุทธการตลาดรวมทั้งหมดว่า “กลยุทธ์สร้างกระแสฮิต ติดลมบน” โดยมีเป้าหมายหลักสร้างการเติบโตในยอดขายให้เพิ่มขึ้น 50% ในปี 2555
– บริษัทฯ มีการส่งเสริมหรือสนับสนุน ด้านการตลาดให้กับนักลงทุนอย่างไรบ้าง
โฆษณาสาขาที่เปิดในรูปแบบ Blog Marketing และ facebook Marketing ข่าวสารการเปิดสาขาใหม่ที่ส่งให้สื่อต่างๆเป็นของแถมในบางโอกาสไม่การันตีผล เปิดโอกาสให้ร่วมออกบูธขายชา กาแฟ ในงานแฟร์ต่างๆที่เราตัดสินใจเข้าร่วมในบางโอกาสและเป็นการสุ่มเลือกตามความเหมาะสม ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนเปิดร้านกาแฟฟรี
– ยอดตัวแทน จำนวนสาขา
กว่า 300 สาขา ทั่วประเทศ
– ความเติบโตของบริษัท เป้าหมายในอนาคต
เรามองว่าเราอยู่รอดจากสาขาที่เปิดแล้วและประสบความสำเร็จมีการสั่งซื้อวัตถุดิบต่อเนื่อง ในอนาคตจึงมุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนซึ่งหมายความว่าเราจะแนะนำก่อนการลงทุนเป็นอย่างดีให้ผู้ประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างถูกต้องที่สุด ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีที่สุด ส่งผลให้มีสาขาที่ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นฐานให้มีเงินทุนในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง
– ฝากแง่คิดถึงผู้ที่กำลังมองหาอาชีพ
ขอให้มีความมุ่งมั่น หากตั้งใจทำ และมีสายป่านมีเงินทุนเพียงพอ ท่านประสบความสำเร็จแน่นอน
ท่านต้องคิดว่าถ้าลงทุนเปิดสาขานี้แล้วขายไม่ดีจะทำอย่างไร เตรียมแผนสองและสาม อย่ามีแค่แผนเดียว เช่น หากเปิดทำเลนี้ขายไม่ดี ท่านต้องพร้อมที่จะย้ายทำเล ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนทำเลคือลงทุนแบบรถเข็น เข็นไปขายที่ไหนก็ได้ หรือรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์พ่วงถ้าทำได้ แต่การทำแบบนี้ควรมีทำเลที่จอดขายได้ประจำแบบเสียค่าเช่าเป็นกิจลักษณะยึดทำเลดีหัวหาดให้ได้ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จครับ
– อื่นๆ ที่ต้องการเสนอแนะ
หากท่านต้องการนัดเข้ามาสนทนาเรื่องการทำธุรกิจเครื่องดื่มและการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงการลงทุนและสักถามประเด็นต่างๆเพิ่มเติมสามารถเข้ามา ณ ที่ทำการได้โดยนัดล่วงหน้า 2 วัน และติดตามข้อมูลดีๆ เช่นทำเลการเปิดร้าน การออกบูธงานแฟร์ ได้ที่ http://www.facebook.com/TheIndianTeaPage
แฟรนไชส์กาแฟ THE INDIAN TEA เผยกลยุทธ์สร้างกระแสฮิต ติดลมบน มุ่งเป้าโต 50% ในปี 2555 หลังจากเติบโตเพิ่มขึ้น 48% ในปี 2554
นับว่า แฟรนไชส์กาแฟและชา เป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจจับตามองโดยเฉพาะการแข่งขันกันในเวทีระดับ SMEs โดยTHE INDIAN TEA ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ในสไตล์อินเดีย ได้นำเสนอเครื่องดื่มประจำชาติของชาวอินเดีย คือชาอัสสัม ในสูตรต่างๆ และกาแฟเปอร์เซีย เป็นผู้โลดแล่นอยู่ในวงการแฟรนไชส์กาแฟและชาในระดับเล็กถึงกลาง ที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่าวัฒนธรรมการดื่มชาและกาแฟของคนไทยกำลังเริ่มซึมซับวัฒนธรรมของนานาชาติเข้ามาทีละนิดๆ จนกระทั่งสไตล์การดื่มชาแบบนี้จะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในอนาคตอันใกล้
หากกล่าวถึงความนิยมในประเทศอินเดียแล้ว ชาเป็นเครื่องดื่มที่มีความนิยมสูง และมีแทบทุกซอกทุกมุมในประเทศ ในด้านตลาดโลก กระแสความนิยมในด้านเครื่องดื่ม ชา ในสูตรต่างๆ ของอินเดียเริ่มมีความนิยมสูงขึ้น มองย้อนกลับมายังประเทศไทยซึ่งก้าวหน้าไปมากกว่านานาประเทศในการนำเสนอและแนะนำวัฒนธรรมการดื่มชาสไตล์อินเดีย ดูจากตัวเลขการเจริญเติบโตของการขายแฟรนไชส์กาแฟ THE INDIAN TEA ข้อมูลจากไทยแฟรนไชส์เซนเตอร์
2550 = 61
2551 = 111 = เพิ่มขึ้น 82%
2552 = 161 = เพิ่มขึ้น 46%
2553 = 211= เพิ่มขึ้น 32%
2554 = 311 = เพิ่มขึ้น 48%
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆแล้ว กล่าวได้เต็มปากว่ายังไม่มีประเทศใดที่สามารถสร้างกระแสนิยมในการดื่มชาอินเดียและกาแฟเปอร์เซียได้มากเท่าประเทศไทย ใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างกระแสวัฒนธรรมการดื่มแบบนี้ ต้องย้อนกลับไปในปี 2546 ซึ่งเป็นปีที่กิจการนี้เริ่มต้นขึ้น สาขาแรกที่หลังการบินไทย ถนนวิภาวดี โดยคุณมาโนช อัทมารามานี ผู้มีความคิดริเริ่มในการนำเสนอทางเลือกนี้ให้กับผู้บริโภค “ในตอนนั้นมีเพียงแค่สาขาเดียว แต่มีความตั้งใจที่จะสร้างให้มีสาขาทั่วประเทศอยู่แล้ว ในรูปแบบร้านสาขา ( chain store ) แต่ทว่าผมไม่มีเงินทุนเพียงพอที่จะเปิดสาขาเองและไม่อยากรอช้าที่จะทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่รู้จัก ทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จัก จึงเปิดขายแบรนด์และสูตรให้กับผู้ที่สนใจลงทุน และเป็นเจ้าของร้านเต็มตัวในแต่ละจุดที่เขานำไปเปิดในรุปแบบ แฟรนไชส์กาแฟ การที่ผมออกมาทำธุรกิจขายชา กาแฟ สไตล์นี้ ผมโดนคนรอบข้างต่อว่าหลายต่อหลายหนด้วยความเป็นห่วง ไม่มีใครสนับสนุนผม แต่ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้สามารถทำได้ ในเมื่อมันฮิตอยู่ในประเทศหนึ่งทำไมมันจะฮิตในอีกประเทศหนึ่งไม่ได้” คุณมาโนช อัทมารามานี เจ้าของแบรนด์ THE INDIAN TEA กล่าว
อัตราการเติบโตของสาขาและผู้ลงทุนเปิดร้านมีสูงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา โดย คุณมาโนช ค่อยๆสร้างให้ธุรกิจนี้เป็นที่รู้จัก โดยการออกไปขายเองและออกบูธประชาสัมพันธ์ในงานธุรกิจแฟรนไชส์ต่างๆ ภายหลังได้ย้ายร้านมาเปิดที่สาขาถนนหลังสวน ร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ขายได้สาขาแรกที่ถนนหลังสวน ต่อจากนั้น มีช่วงหนึ่งที่พักจากการขายเนื่องจากอยากลองทำงานด้านอื่นบ้าง จึงไปทำงานประจำสองปี เดินทางไปยังประเทศต่างๆที่มีสงครามกลางเมือง มีระเบิดฆ่าตัวตาย มีคาร์บอม เพราะอยากเรียนรู้การทำงานในต่างประเทศและชอบความตื่นเต้นเร้าใจ รวมถึงรักการเดินทาง ระหว่างนั้นเมื่อกลับมาประเทศไทยในช่วงวันหยุดก็ใช้เวลาว่างในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจให้เป็นที่รู้จักต่อ เนื่องจากแม้ว่าจะทำงานประจำอยู่ คุณมาโนช กลับมาประเทศไทยก็มาต้มชาถึงดึกๆดื่นๆ ทุกคืน บางคืนต้องแพ็ควัตถุดิบส่งให้กับร้านค้าสาขาจำนวนเยอะๆถึงกับไม่ได้นอน ไปมีเวลานอนเอาตีสาม ตื่นขึ้นมาก็ต้องต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาที่บ้านมาชิมและศึกษาธุรกิจ ผู้สนใจยังมีเข้ามาเรื่อยๆ ในช่วงวันหยุดจึงไม่มีเวลาว่างเลย จนกระทั่งตัดสินใจ มาทำธุรกิจนี้เต็มตัวใช้เวลาว่างทั้งหมดที่มีอีกครั้ง เพราะทำงานแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ทำงานประจำไปด้วยขายแฟรนไชส์ไปด้วยเป็นงานที่หักโหมพอตัว และคิดว่าออกมาทำเต็มตัวจะดีกว่า โดยตัดสินใจทิ้งโอกาสที่มีผู้ว่าจ้างอีกบริษัทให้เงินเดือนระดับสูงสำหรับเป็นตัวแทนขายในต่างประเทศ และดำเนินกิจการค้าวัตถุดิบ อุปกรณ์ในการเปิดร้านชา กาแฟ ในสไตล์อินเดียและเปอร์เซีย เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
แฟรนไชส์กาแฟ THE INDIANTEA ต่อยอด ใช้ กลยุทธ์สร้างกระแสฮิต ติดลมบน
กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่เราตั้งชื่อขึ้นเองเพื่อขจัดจุดอ่อนของเราที่เรามองว่าเรายังเป็นที่รู้จักน้อยมากๆในสื่อต่างๆและในหมู่ผู้บริโภค “การใช้กลยุทธ์นี้ แฟรนไชส์กาแฟ THE INDIAN TEA ต้องเน้นทำความรู้จักกับสื่อมากขึ้นแบ่งแยกประเภทช่องทางการกระจายข่าวสารไปยังผู้ประกอบการที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งวัดผลที่ได้รับ ควบคุมต้นทุนการใช้จ่ายด้านงบการตลาดให้คุ้มค่าซึงเป็นการดำเนินกิจกรรมด้านการตลาดทั่วไปที่เราดำเนินการอยู่แล้วและต้องการจะเสริมให้มีมากขึ้นในปี 2555 โดยตั้งชื่อให้ระลึกถึงเป้าหมายที่เราต้องการ” นายอิสรพัน บุนนาค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว แบ่งแยกเป็นหัวข้อดังนี้
1.ประชาสัมพันธ์ในเว็บที่มีกลุ่มเป้าหมายเข้าชมให้ครอบคลุม ยังมีอีกหลายเว็บที่เราไม่ได้ใส่ใจและเว็บต่างๆเหล่านั้นจะเป็นกำลังเสริมที่จะพัฒนาผลักดันเราให้เติบโตขึ้นได้
2.Social Network Marketing ปกติเรามีการอับเดทผ่านช่องทางนี้ซึ่งไม่ได้มีแค่ facebook หรือ twitter แต่มีทุกอย่างที่เป็น Social Network และรวมกลุ่มผู้สนใจลงทุนรวมทั้งผู้ที่สนใจติดตาม ผู้ที่อยากทดลองทานเข้ามาไว้ในจุดๆเดียวกันซึ่งมีแนวโน้มในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่องทางนี้เรามองว่าเป็นการสร้าง คอมมูนิตี้อย่างหนึ่งที่ลูกค้าสามารถวิพากย์วิจารณ์ได้ สื่อสามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้ และเราสามารถตอบกลับไปยังลูกค้าได้ทันที (real time)
3.Tele Marketing คนที่สนใจตลอดมามีการเก็บข้อมูลเบอร์ติดต่อและที่อยู่ไว้ที่สามารถติดตามอับเดทข้อมูลได้ตลอดเวลาถึงความเคลื่อนไหวของเราและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเราที่เขาอาจสนใจ
4.E-Mail Marketing เราไม่ส่งสแปมเมล์ เรามีรอบระยะเวลาในการส่งและส่งไปยังกลุ่มผู้สนใจที่ติดต่อเราเข้ามาและให้อีเมล์กับเราไว้เท่านั้น และส่งเฉพาะข้อมูลที่เป็นประโยชน์เช่นทำเลใหม่ๆในการเปิดร้านขายของ ทำเลเปิดร้านกาแฟ การอับเดทความเป็นไปของบริษัท โดยข้อมูลจะไม่เป็นข้อมูลซ้ำๆกันในการส่งเข้าไปให้ผู้ที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วและลูกค้ามุ่งหวังในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเรามีข้อมูลลูกค้ากว่า 3,000 ราย และไม่มีการขายข้อมูลนี้ให้กับที่อื่นเด็ดขาด
5.สื่อวิทยุและนิตยสาร ไม่เน้นเพราะที่ผ่านมาไม่ได้ผลแต่ยังไม่ทิ้ง มีโอกาสจะเลือกพิจารณา เลือกลงเป็นบางโอกาส ที่ไม่ได้ผลเพราะเราไม่มีทุนเพียงพอที่จะลงแบบต่อเนื่องหากลงต่อเนื่องเชื่อว่าได้ผลแน่นอนแต่ต้นทุนในการประชาสัมพันธ์สูงเกินไปไม่คุ้มกับรายรับเราจึงมองว่าช่องทางอื่นๆได้ผลมากกว่า ในระดับการลงทุนที่เท่ากัน วิทยุและนิตยสารมีติดต่อมาสัมภาษณ์ปีหนึ่งๆหลายแห่ง ขอขอบพระคุณ
6.หนังสือพิมพ์ อับเดทข้อมูลข่าวสารไปยังสื่อต่างๆมากขึ้น ในความเคลื่อนไหวของกิจการและการจัดกิจกรรมของธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นที่สนใจกับประชาชนทั่วไป สร้างฐานผู้นิยมและติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของธุรกิจเราให้มีมากขึ้น
7.การออกบูธ เน้นการออกงานแฟร์ต่างๆ ให้ความสำคัญสูงเพราะนี่คือภาพลักษณ์ของแบรนด์ภาพที่สื่อถึงความมีตัวตนของแบรนด์ และการได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและสนใจจริงๆ มีโอกาสสูง ที่ผ่านมาลูกค้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจลงทุนก็แวะมาเยี่ยมเราในงานแวะมาดูเราในงานและดูธุรกิจอื่นไปพร้อมกัน จึงเป็นช่องทางสำคัญในการ remind ลูกค้าในด้านต่างๆ การเตือนความจำว่าเรายังรอเขาลงทุนกับเราอยู่ หากผู้ที่กำลังหาทำเลเราก็ยังอยู่ตรงนี้ยังรอคุณอยู่เสมอ รวมทั้งการหาลูกค้าใหม่ๆที่สนใจลงทุนด้านนี้การออกบูธนับว่าสำคัญมาก และงานที่มีนักข่าวเดินก็มักจะได้ลงข่าวอับเดทธุรกิจของเราเป็นของแถมในหนังสือพิมพ์อีกด้วย อีกทั้งเป็นการเพิ่มจำนวนคนที่รู้จักกิจการให้มีมากขึ้นเพื่อสร้างการบอกต่อหรือ viral marketing ที่สำคัญมากเป็นอันดับต้นๆ เพราะเขาได้สัมผัสภาพจริงได้เห็นของจริงและได้สัมผัสกับเราโดยตรง
การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายและการสร้างแบรนด์ให้ฮิตติดตลาดเป็นสิ่งที่เราดำรงไว้เสมอมา การรวบรวมความคิดเห็นผู้ที่เคยได้ดื่มได้ชิมเป็นเรื่องที่เราใส่ใจมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญกับ content management หรือการบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ซึ่งการจะเป็นแบรนด์ที่มีคนสนใจจำเป็นจะต้องมีเรื่องราวใหม่ๆอับเดทอยู่ตลอดเวลา และเรื่องราวเก่าๆที่จะต้องเก่าแบบคลาสสิกคือมีคนสนใจศึกษาไม่เสื่อมคลาย ด้านการจัดการวัตถุดิบและอุปกรณ์เลือกสรรเฉพาะที่มีคุณภาพ คงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือสำหรับผู้บริโภคและผู้ร่วมลงทุนสร้างแบรนด์ไปพร้อมกับเรา กลยุทธ์เราคือการใส่ใจในทุกรายละเอียดและพัฒนาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไป เข้าถึงสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้พร้อมลงทุนร่วมไปกับเรา กลยุทธ์การตลาดในปี 2555 จะมีการสื่อสารไปยังช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อเข้าถึงตลาดที่ไม่มีวันหลับและกระหายการลงทุนประกอบธุรกิจนี้ รวมทั้งร่วมสร้างสิ่งต่างๆให้เป็นจริงอย่างยั่งยืน
การสร้างกระแสฮิต ติดลมบนจึงเป็นเรื่องของการบริหารช่องทางการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารโดยตรงถึงผู้บริโภคเป็นสำคัญ เราจะเรียกกลยุทธการตลาดรวมทั้งหมดว่า “กลยุทธ์สร้างกระแสฮิต ติดลมบน” โดยมีเป้าหมายหลักสร้างการเติบโตในยอดขายให้เพิ่มขึ้น 50% ในปี 2555 หลังจากเติบโตเพิ่มขึ้น 48% ในปี 2554 ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้และไม่ไกลเกินเอื้อม ที่อยู่ website http://www.theindiantea.com , facebook http://www.facebook.com/TheIndianTeaPage blog http://www.perfectdestiny.co
แฟรนไชส์กาแฟ ของไทย ไทยแฟรนไชส์ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย
แฟรนไชส์กาแฟ ของไทย ไทยแฟรนไชส์ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย
จัดได้ว่าเป็น แฟรนไชส์กาแฟ ของไทย ไทยแฟรนไชส์ สำหรับ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย เจ้าของธุรกิจเรียกได้ว่าถือเชื้อชาติอินเดีย สัญชาติไทย และเริ่มธุรกิจในประเทศไทยจึงเป็นกล่าวได้ว่าเป็นแฟรนไชส์ไทย เช่นกัน การปรับรสชาติปรับสูตรให้ถูกปากคนไทยจึงเป็นไปได้สำหรับการขายชาในประเทศไทย
หากจะกล่าวว่าแฟรนไชส์กาแฟหรือชารูปแบบนี้มีมาก่อนในโลกหรือไม่ ในจุดเริ่มต้นที่มีการเปิดขายแฟรนไชส์นี้ยังไม่พบเห็นที่ใดในโลกทำชาอินเดียและกาแฟเปอร์เซียเป็นแฟรนไชส์ แม้แต่แฟรนไชส์ชาอินเดียอย่างเดียวก็ไม่พบเจอในสมัยเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มกิจการ จึงเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกของโลกเลยก็ว่าได้ หากจะถามว่าธุรกิจนี้มีการทำมาก่อน มีการเปิดร้านมาก่อนหรือไม่ ที่ประเทศอินเดียนั้นมีการเปิดทุกซอกทุกมุมเนื่องจากชาวอินเดียชอบทานชามากกว่ากาแฟและนิยมทานแบบร้อน ในขณะที่คนไทยนิยมทานเย็น แต่ไม่มีใครนำมาทำเป็นแฟรนไชส์ที่อินเดียในสมัยนั้น เพราะเปิดร้านชากันเป็นกิจวัตร และร้านที่ทำอร่อยก็จะมีคนทานเยอะหลายแห่งแทบจะไม่มีชื่อร้านหรือแบรนด์
การถือกำเนิดของ แฟรนไชส์กาแฟ ที่ใช้แบรนด์ชานำ
เนื่องจากเห็นว่าชาควรจะมีแบรนด์เฉกเช่นกาแฟ แฟรนไชส์กาแฟ แบรนด์ THE INDIAN TEA จึงถือกำเนิดขึ้น แม้ว่าในไทยคนนิยมกาแฟมากกว่าตามความรู้สึกของเรา แต่ทว่าเป็นจริงหรือ ที่คนนิยมทานกาแฟมากกว่าชา หรือเป็นเพียงการนำเสนอของผู้ประกอบการที่เอาแบรนด์กาแฟนำจึงทำให้คนดื่มกาแฟดูเหมือนมากกว่าชา
ทั้งนี้หากมีการเก็บสถิติจริงๆในไทยไม่แน่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ใจคิดว่า ชาและกาแฟสองอย่างนี้สูสีกัน บ่อยครั้งที่เรามักสั่งชานมเย็น เพราะเราอยากทาน สั่งกาแฟรสต่างๆเพราะเราอยากทาน เป็นความหลากหลายของความต้องการดื่มของมนุษย์เรา แม้จะเป็นช็อกโกแล็ต น้ำดื่ม น้ำผลไม้ ก็เลือกดื่มตามแต่ความต้องการในเวลานั้นๆ ตอนนี้เราเอาอะไรตัดสินว่าคนดื่มกาแฟมากกว่า กล่าวคือมองภาพรวม ที่ประเทศอังกฤษแน่นอนมองภาพรวมนิยมดื่มชามากกว่า ที่อินเดียแน่นอนภาพรวมนิยมดื่มชามากกว่า อย่างไรก็ตามธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะมีร้านเป็นของตัวเองสักร้าน ร้านชาหรือกาแฟที่มีเบเกอรี่ให้ทานเป็นร้านสำหรับทานอหารว่างในยามที่ต้องการผักผ่อนหย่อนใจในยามเช้า และยามบ่าย หรือแม้กระทั่งยามเย็น เรียกเต็มๆ ก็ เช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น ก่อนนอน
คนดื่มตลอดเวลาและชาเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มได้มากกว่ากาแฟ ดื่มได้ต่อวันมากกว่า จึงควรใช้กระแสสลับหากดื่มกาแฟเพียงพอแล้วก็ต่อด้วยชา ถามว่าชามีคาเฟอีนหรือไม่ คำตอบคือมีแต่น้อยมาก น้อยจนดื่มได้เรื่อยๆ และยังจัดว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระติดอันดับ 9 จากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจอร์ลิส แล้วอันดับหนึ่งคืออะไร น้ำทับทิมครับ แล้วคนเวลาจะมาดื่มชาหรือกาแฟหรือดื่มอะไรส่วนมากคำนึงถึงประโยชน์หรือเปล่า ส่วนมากใช่ครับ คำนึงถึงประโยชน์ที่เขาจะได้รับ และก็มีอีกส่วนมากที่ ไม่คิดอะไรมากแค่อยากดื่ม จะมีประโยชน์หรือเปล่าไม่ได้สนใจ
แฟรนไชส์กาแฟ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ส่วนผสมหลักตัวที่หนึ่งคือกระวานเทศเขียว มีประโยชน์อย่างไร
การ์โดมอมเขียว ( Green Cardamom) แปลเป็นไทยว่ากระวานเทศเขียว เป็นสายพันธุ์หลักที่เรานำเข้ามาจากอินเดีย มีสรรพคุณดังนี้
กระวานเทศเขียวใช้กันอย่างกว้างขวางในเอเชียใต้ เพื่อรักษาการติดเชื้อในฟันและเหงือก เพื่อป้องกันและรักษาปัญหาในลำคอ อาการแน่นปอด และวัณโรคปอด,การอักเสบของเปลือกตา และความผิดปกติในการย่อยอาหารอีกด้วย นอกจากนี้ยังจะใช้ในการสลายนิ่วในไตและหินน้ำดีและถูกนำมาใช้เป็นยาแก้พิษมีรายงานว่าใช้ต้านพิษทั้งงูและแมงป่องพิษ
แฟรนไชส์กาแฟ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ส่วนผสมหลักตัวที่สองคือมาซาล่า มีประโยชน์อย่างไร
มาซาล่า (Masala or massala) เป็นส่วนผสมของสมุนไพร อบเชย กานพลู ใบกระวาน ขิง พริกไทยดำ
อบเชย (Cinnamon) อบเชยมีสรรพคุณทางยา เนื่องจากมีแทนนินสูง(แทนนินมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้) ที่ให้รสฝาดจึงนิยมใช้ในยาตำรับแผนโบราณเช่น เป็นส่วนผสมในยาหอมต่าง ๆ โดยใช้ส่วนของเปลือกลำต้น ใช้ในการแก้จุกเสียด แน่นท้อง หรือใช้ในการทำยานัตถุ์ใช้สูดดม เพื่อเพิ่มความสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย แก้โรคท้องร่วงเพราะมีส่วนช่วยต้านแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยในการย่อยอาหาร และสลายไขมัน ส่วนเปลือกลำต้นอายุมากกว่า 6 ปี หรือใบกิ่งยังนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วย (Essential oil) ซึ่งจะมีมากในอบเชยญวณที่ให้น้ำมันหอมระเหย 2.5%
กานพลู ( Clove) ในตำรายาไทย ใช้ดอกตูมแห้งแก้ปวดฟัน โดยใช้ดอกแช่เหล้าเอาสำลีชุบอุดรูฟัน และใช้ขนาด 5 – 8 ดอก ชงน้ำเดือด ดื่มเฉพาะส่วนน้ำหรือใช้เคี้ยวแก้ท้องเสีย ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ นอกจากนี้ใช้ผสมในยาอมบ้วนปากดับกลิ่นปาก พบว่าในน้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากดอกมีสาร eugenol ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ จึงใช้แก้ปวดฟัน และมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้องลดลง ช่วยขับน้ำดี ลดอาการจุกเสียดที่เกิดจากการย่อยไม่สมบูรณ์ และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดเช่น เชื้อโรคไทฟอยด์ บิดชนิดไม่มีตัว เชื้อหนองเป็นต้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้มีการหลั่งเมือก และลดการเป็นกรดในกระเพาะอาหารด้วย
ใบกระวาน (bay leaf [เบ-ลีฟ]) เรียกอีกอย่างว่า layrel leaf หรือ bay laurel ได้มาจากต้น evergreen bay laurel กำเนิดจากแถบเมดิเตอเรเนียน ในสมัยกรีกโรมัน ใช้แทนสัญลักษณ์แห่งชื่อเสียง,เฉลิมฉลอง,ชัยชนะ เหมาะใช้แต่งกลิ่นให้ ซุป ,สตู,ผัก และเนื้อ เบย์ลีฟสดจะมีความหอมมากกว่าเบย์ลีฟแห้ง หาซื้อได้ตามซูปเปร์มาร์เก็ตและตลาดทั่วไป วิธีเก็บรักษาเบย์ลีฟแห้ง ให้เก็บในที่ภาชนะกันอากาศเข้า เก็บในที่มืดและเย็น จะสามารถเก็บได้มากกว่า 6 เดือน ซึ่งบางแหล่งข้อมูลอ้างอิงว่า ตามจริงแล้วใบตากแห้งซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ทำเครื่องเทศนั้น ไม่ใช่ใบของต้นกระวาน แต่เป็นใบของต้นเทพธาโร ซึ่งมีกลิ่นหอมฉุน และรสเผ็ดร้อน สรรพคุณทางยา ขับลม บำรุงเลือด บำรุงธาตุ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ วิธีใช้ในการ ประกอบอาหาร เวลาฉีกเอาก้านกลางออกแล้วใส่เป็นชิ้นๆ เพียงเล็กน้อย ใช้ดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ หรือนิยมใช้ลอยน้ำแกง เช่น แกงมัสมั่น (ข้อมูลโดย va.proud )
ขิง (Ginger) เหง้า : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ ขับเสมหะ แก้บิด เจริญอากาศธาตุ สารสำคัญในน้ำมันหอมระเหย จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้เหง้าแก่ทุบหรือบดเป็นผง ชงน้ำดื่ม แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เหง้าสด ตำคั้นเอาน้ำผสมกับน้ำมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย จิบแก้ไอ ขับเสมหะ
พริกไทยดำ (Piper nigrum) เมล็ด : ผลที่ยังไม่สุกนำมาทำเครื่องเทศ แต่งกลิ่นอาหาร ผลแก่ 15-20 เมล็ด บดเป็นผงชงน้ำกินให้หมด 1 ครั้ง ช่วยขับลม ขับเสมหะขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงธาตุแก้อาการอาหารไม่ย่อย1
สูตร ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย
สูตรที่ใช้จะต่างจากชาและกาแฟ ในต้นตำหรับแน่นอนเนื่องจากหากทำแบบอินเดีย 100% และแบบเปอร์เซีย 100% ขายไม่ได้แน่นอนเพราะเขาใส่สมุนไพรจนออกรสออกกลิ่นเผ็ดร้อนทีเดียว ซึ่งคนไทยไม่ชินกับรสชาติแบบนี้ เราจึงมีสูตรเฉพาะที่ใส่แค่เพียงให้พอได้กลิ่นของสมุนไพรเล็กๆ และมีเครื่องปรุงต่างๆแบบสำเร็จให้ เมื่อซื้อแฟรนไชส์ของเรา
มองหาแฟรนไชส์กาแฟและต้องการความแปลกใหม่ สะดุดตา
ในรูปแบบการลงทุนทุกรูปแบบมีป้ายเมนูตั้งพื้น ป้ายโลโก้ร้านกาแฟให้ที่โดดเด่น สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ทุกวันนี้ยังมีผู้ที่ไม่รู้จักชาหรือกาแฟในแบบของเราอยู่อีกมากที่มีความต้องการอยากลอง โดยรสชาติของเรายังไม่ได้เป็นสูตรสากลเหมือนสูตรกาแฟสด เอรสเพรสโซ่ ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า ที่ใครๆก็รู้จัก ร้านไหนก็มี และยังไม่ได้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก จึงยังมีช่องทางอีกมากมายที่สามารถนำไปหาทำเลเปิดร้านกาแฟและเปิดร้านในแบรนด์นี้ นำเสนอรูปแบบใหม่ๆสู่ตลาดได้ จากประสบการณ์ที่ได้ไปออกบูธมา
พบว่าคนให้ความสนใจชิมในแต่ละครั้งที่ออกบูธเยอะมาก และสามารถขายได้ โดยคนซื้อแทบจะไม่ถามถึงราคา อาจเป็นเพราะคาดว่าอย่างมากก็คงไม่เกิน 45-50 ซึ่งเวลาเราไปออกงานที่ผ่านมาเราจะขายอยู่แก้วละ 20 เนื่องจากรับเงินสะดวกไม่ต้องทอนเพราะส่วนมากลูกค้ามีแบงค์ 20 กันอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงการขายขึ้นอยู่กับต้นทุน สามารถขายได้แก้วละ 15-20-25-30++ สำหรับชาและกาแฟชงสำเร็จ ส่วนกาแฟสด ก็ขายที่ 30-35-40-45-50-55-60-65++ แล้วแต่ค่าเช่าทำเล ในร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มชงสำเร็จแก้วละ 65-70 คุณคงเคยเห็นเนื่องจากค่าเช่าแพงก็ต้องขายราคานั้น เรื่องของการตั้งราคาขาย จึงขึ้นอยู่กับทำเลว่าขายราคานี้ได้หรือไม่ มีคนซื้อหรือเปล่าและเกี่ยวกับต้นทุนเป็นหลัก
อ้างอิง
1.Cardamom From Wikipedia, the free encyclopedia
2.อบเชย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
3.กานพลู จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
































































