คำถาม คำตอบ

เปิดร้าน แฟรนไชส์ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย คำถาม-คำตอบ ที่พบบ่อย

1.อยากเปิดร้านขายชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ต้องทำอย่างไร

ในการเปิดร้านต้อง ทำสิ่งที่ยากที่สุดก่อน คือ การหาทำเลที่จะเปิดร้านให้ได้ ต้องเข้าใจก่อนว่า ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย เป็นเครื่องดื่มที่ขายได้ทุกที่ทุกเวลา ทุกสถาณการณ์ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกทำเลจะสามารถนำไปขายได้หมด ขณะนี้เรามีขายอยู่แล้วในหลากหลายทำเล เช่น ตลาดนัด เช่าหน้าร้าน ในห้างต่างๆ หน้าบ้าน หน้าโรงเรียน – มหาวิทยาลัย สถานที่ทำงานต่างๆ ออฟฟิส หรือแม้ว่าจะนำเมนูของเราไปเสริมขาย ในร้านกาแฟสด-กาแฟโบราณ ร้านน้ำปั่น ร้านอาหาร ร้านเบเกอร์รี่ หน้าร้านอินเตอร์เน็ต  ร้านขายของชำ ฯลฯ

เมื่อเราได้ทำเลแล้วหรือมีทำเลที่ขายอยู่แล้ว จึงเลือกรูปแบบการลงทุนว่าแบบใดเหมาะกับทำเลนั้นๆที่เรามี สิ่งที่เราต้องดูในทำเลของเราคือ 1. ค่าเช่าเท่าไหร่ 2.ค่าจ้างคนขาย 3.เป็นทำเลที่ขายได้ทุกวัน ทั้งวันหรือไม่ 4. แถวนั้นมีร้านน้ำ ร้านกาแฟไหมและเค้าขายแก้วละเท่าไหร่และขายแก้วขนาดไซส์ไหน

2.รูปแบบการลงทุน มีแบบใดให้เลือกบ้าง

2.1) 6,90019,00039,000 เป็นสูตรกาแฟชงเป็นเหยือก รวม5รส คือ

ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย 5 รส (เย็น/ร้อน)

(1) กาแฟเปอร์เซีย Persian Coffee
(2) ชานม มาซาล่า Masala Milk Tea
(3) ชานม การ์ดาม่อม Cardamom Milk Tea
(4) ชานม น้ำผึ้ง Honey Milk Tea
(5) ชาดำ Black Tea

2.2) 110,000130,000 เป็นสูตรกาแฟสด + เป็นสูตรกาแฟชงเป็นเหยือก รวม10รส คือ

      ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย 5 รส (เย็น/ร้อน)

(1) กาแฟเปอร์เซีย Persian Coffee
(2) ชานม มาซาล่า Masala Milk Tea
(3) ชานม การ์ดาม่อม Cardamom Milk Tea
(4) ชานม น้ำผึ้ง Honey Milk Tea
(5) ชาดำ Black Tea

      สูตรกาแฟสด 5 รส (เย็น/ร้อน)
(6) เปอร์เชี่ยน เอสเปรสโซ Persian Espresso
(7) เปอร์เชี่ยน คาปูชิโน Persian Cappuccino
(8) เปอร์เชี่ยน ลาเต้ Persian Latte
(9) เปอร์เชี่ยน มอคคา Persian Mocca
(10) เปอร์เชี่ยน โกโก้ Persian Cocoa

3. กาแฟชงเป็นเหยือก และ กาแฟสด ต่างกันอย่างไร

ก่อนอื่นเราต้องเลือกก่อนว่า เราต้องการทำขายเป็นแนวไหน คือ กาแฟชงเป็นเหยือก หรือ กาแฟสด

3.1 กาแฟชงเป็นเหยือก  คือการทำเตรียมไว้เลย เป็นเหยือกๆ 5 รส 5เหยือก และนำไปเทเสริฟใส่น้ำแข็งขายได้เลย โดยไม่ต้องชงขายทีละแก้ว ซึ่งวิธีการทำจะใช้วิธีการต้มน้ำธรรมดาง่ายๆโดยจะใช้เตาแก็สและอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วที่บ้านทำก็ได้ หรือจะใช้เตาไฟฟ้าอุปกรณ์ของทางเราก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อนเลยก็นำไปทำขายได้ทันทีโดยไม่ต้องมาอบรมวิธีการทำแต่เราจะมีคู่มือให้ 1 เล่มและสามารถนำวัตถุดิบไปทำตามคู่มือขายได้ทันทีง่ายๆ วิธีการทำแบบนี้จะง่ายกว่าแบบกาแฟโบรานหรือกาแฟสดมากเพราะ2แบบนี้ถึงแม้ว่าจะได้ไปอบรมมาแล้วก็ตามก็ยังต้องกลับมาปรับปรุงการชงทีละแก้วของเรานั้นให้คงที่และถูกปากแต่ละลูกค้าที่ไม่เหมือนกันซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ3-6เดือนถึงจะคงตัวและชินมือ ร้านแบบกาแฟโบรานและกาแฟสดที่อยู่ได้มานานนั้นต้องสั่งสมประสบการมานานพอสมควร แต่การทำแบบชงเป็นเหยือกไว้เลยของเรานั้นใครก็สามารถนำไปทำขายได้ทันทีแบบว่าวันนี้ได้สินค้าพรุ่งนี้ก็นำไปขายได้ทันที โดยวิธีการทำของเราจะทำให้รสชาติออกมาแป๊ะๆทุกครั้งแม้ว่าใครจะเป็นคนทำก็ตาม วิธีการนี้ของเราจะสำคัญที่คู่มือที่เรามีให้และทำตามขั้นตอนของมันเท่านั้นพร้อมด้วยช้อนตวงแบบเฉพาะของเราที่จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก กว่า200เจ้าแล้วที่เราจัดส่งไปทำกันเองง่ายๆตามคุ่มือแบบนี้โดยไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำไม่ได้ตามสูตรของทางเรา

3.2 กาแฟสด คือการชงขายทีละแก้ว ซึ่งต้องใช้เครื่องทำกาแฟสดเครื่องบดกาแฟและอุปกรณ์บาริสต้าครบถ้วน ลักษณะนี้ต้องมีการอบรม 1 วันเต็ม เมนูที่จะได้จะเพิ่มขึ้นจากกาแฟชงเป็นเหยือกอีก 5 เมนู คือ เปอร์เซียนเอรสเพรสโซ่, เปอร์เซียนคาปูชิโน่, เปอร์เซียนลาเต้, เปอร์เซียนมอคคา, เปอร์เซียนโกโก้ สำหรับร้านเต็มรูปแบบซึ่งจะมีทั้ง กาแฟสดและกาแฟชงเป็นเหยือกรวมเข้าด้วยกัน

4. การเลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะกับทำเลที่เรามีนั้นทำอย่างไร

รูปแบบการลงทุนแบบ 39,000 และ 130,000 นั้น จะได้KIOSKหรือเคาเตอร์ ขนาด 1.2 เมตร ตามในรุปที่แสดงในเว็บ เป็นแบบKIOSKมาตรฐานไปด้วย ทั้งสองแบบนี้เราจะแนะนำสำหรับคนที่เปิดในห้างเท่านั้น เนื่องจากเป็น เคาเตอร์มาตรฐานห้างโดยเฉพาะ

แต่สำหรับทำเลอื่นๆที่อยู่ข้างนอกห้างเช่น ตลาดนัด หน้าร้าน เปิดหน้าบ้านตัวเอง ทำเป็นห้องมีที่นั่ง แบบเคลื่อนที่ หรือประเภทที่มีหน้าร้านอยู่แล้วขายของอยู่แล้วหรือขายกาแฟอยู่แล้ว มีร้านขายอาหาร  ร้านขายหมูกระทะ ร้านเบเกอรรี่ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านขายของชำฯลฯ เราจะแนะนำการลงทุนแบบ 6,900 19,000 หรือ 110,000 เท่านั้น ซึ่ง 3 แบบนี้จะไม่ได้KIOSKหรือเคาท์เตอร์ แต่เราจะมี ป้ายร้าน ป้ายโลโก้ และ ป้ายเมนูตั้งพื้นให้ ซึ่งสามารถเอาไปติดตั้งกับอะไร ยังไงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะต้องการออกแบบร้านของเราให้ออกมาอย่างไรขนาดไหนเช่น อาจจะหาเคาเตอร์หรือซุ้มมือสอง รถเข็น รถมอเตอร์ไซต์พ่วง หรือซื้อสำเร็จรูป หรือสั่งทำใหม่ ออกแบบใหม่ได้ตามแบบที่เราต้องการหรือแม้กระทั่งใช้โต๊ะตัวนึงเล็กๆไปตั้งก็ได้ แล้วเอาป้ายสามป้ายของเราไปติด ไปตั้ง ให้เหมาะสม นอกเหนือจากป้ายสามป้ายนี้ หากต้องการที่จะออกแบบเอง เราก็จะมีไฟล์แบรนด์ โลโก้ของเราให้ เป็นไฟล์Elastrator (.ai) ให้ สามารถนำไปปริ๊น เป็นป้ายอิงค์เจ็ต ไวนิล เอาท์ดอร์ อินดอร์ สติ๊กเกอร์ติดแก้วก็ได้หมด ทำเมนูเอง ออกแบบร้านเองได้ทั้งหมด ในเว็บของเราจะมีรูปร้านหลากหลายสไตล์มาก ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนแบบ  6,900 19,000 หรือ 110,000 บาท

5.รูปแบบการลงทุน 6,900 กับ 19,000 ต่างกันอย่างไร 110,000 เป็นอย่างไร

5.1) 6,900 สิ่งที่จะได้คือ วัตถุดิบ ใบชา กาแฟ และเครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งจะสามารถ นำไปทำได้ 1,000 แก้ว แล้วก็จะมีคู่มือให้ 1 เล่ม ซึ่งคู่มือเล่มนี้จะสามารถ นำวัตถุดิบที่ได้ไปทำตามคู่มือได้เลยง่ายๆโดยสะดวก ไม่จำเป็นต้องขึ้นมาอบรม เนื่องจากบางท่านอยู่ไกลและไม่สะดวกเดินทางมา กรุงเทพฯ และจะได้ป้ายร้าน สามป้ายข้างต้น

5.2) แบบ 19,000 จะได้ป้ายร้าน 3 ป้ายเหมือนกัน คู่มือเล่มหนึ่งเหมือนกัน วัตถุดิบจะได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจาก 1,000 แก้ว เป็น 2,000 แก้ว และที่จะเพิ่มขึ้นมาอีกก็คือ อุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุดตั้งแต่ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เตาต้ม หม้อต้ม เหยือกตวง กระบอกตวง กระบอกน้ำใส่ชา ขวดโหลโลโก้เอาไว้ใส่ชา กาแฟเครื่องปรุงต่างๆโชว์ แก้วร้อน แก้วเย็น นม น้ำผึ้ง น้าตาล จุกจิกทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในการทำ โดยไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มอีก ทำขายได้ทันที

5.3)110,000 เป็นแบบกาแฟสด ลักษณะการเปิดร้าน เราเปิดกว้างให้ออกแบบร้านได้เอง สามารถควบคุมต้นทุนในการเปิดร้านของตนได้ว่าจะให้อยู่ในระดับไหน มีเครื่องทำกาแฟสดอย่างดีมูลค่า XXXXX หมื่นบาทให้ พร้อมเครื่องบดเมล็ดกาแฟอย่างดีมูคค่า XXXXX หมื่นบาทให้ ป้ายร้าน 3 ป้าย คู่มือเล่มหนึ่ง วัตถุดิบทำได้ 2,000 แก้ว และที่จะเพิ่มขึ้นมาอีกก็คือ อุปกรณ์ในการทำทั้งหมดครบชุดตั้งแต่ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เตาต้ม หม้อต้ม เหยือกตวง กระบอกตวง กระบอกน้ำใส่ชา ขวดโหลโลโก้เอาไว้ใส่ชา กาแฟ เครื่องปรุงต่างๆโชว์ แก้วร้อน แก้วเย็น นม น้ำผึ้ง น้าตาล จุกจิกทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ในการทำ โดยไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มอีก ทำขายได้ทันที พร้อม อบรมวิธีทำกาแฟสด ในเมนูต่างๆของ ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย

สิ่งที่จะได้รับในการเปิดร้านกาแฟสดรูปแบบการลงทุน 110,000 บาท

1.เครื่องทำกาแฟสด EXPOBAR

2.เครื่องบดเมล้ดกาแฟ EXPOBAR

3.วัตถุดิบทำ ชาและกาแฟ เป็นใบชาอัสสัมแท้ๆและเมล็ดกาแฟ โรบัสต้าผสมอาราบิก้า ทำได้ 2,000 แก้ว

4.บิกก้า = 2 เหยือก

5.แก้วชอต = 2 แก้ว

6.แก้วเย็น 16 Oz. = 100 ใบ

7.แก้วเย็น 22 Oz = 100 ใบ

8.แก้วร้อน 80 Oz = 100 ใบ

9.ที่เปิดกระป๋องอย่างดี = 1 อัน

10.นมข้นหวาน = 5 กระป๋อง

11.นมสด = 5 กระป๋อง

12.กระบอกน้ำทนความร้อน = 10 ใบ

13.เหยือกอาคิลิก = 5 เหยือก

14.เหยือกตวง = 1 เหยือก

15.เตาแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างดี = 1 เตา

16.หม้อต้มแสตนเลส อย่างดี = 1 หม้อ

17.ช้อนกระบวย อย่างดี = 1 อัน

18.ขวดโหลแปะโลโก้ = 10 ขวด

19.ช้อนตวง = 1 อัน

20.เทมเปอร์ temper แสตนเลส อย่างดี = 1 อัน

21.ถุงกรองชา กาแฟ = 1 อัน

22.น้ำตาล = 1 ถุง

23.น้ำผึ้ง = 1 อัน

24.ถังแสตนเลสเคาะกากกาแฟ = 1 ถัง

25.ช้อนโซดา = 1 อัน

26.ผงกรดผลไม้ใช้ทำความสะอาดเครื่องทำกาแฟ = 1 กระปุกใหญ่

27.พระพิฆเนตรปางทานขนม ปลุกเสกแล้ว องค์ใหญ่ มูลค่าบูชาประมาณ 2,000 บาท = 1 องค์

ทุกรูปแบบการลงทุนของรานั้น ไม่ต้องเสียค่ารายปี รายเดือน ไม่หักเปอร์เซ็นต์การขาย เพียงแค่วัตถุดิบหมดก็มาสั่งซื้อจากเราและเราจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ โดยใช้วิธีการโทรสั่ง ส่วนแก้วก็สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดเลยจะเป็นขนาดไหนหรือแบบไหนก็ได้ แก้วนั้นไม่จำเป็นต้องใช้แบบมีโลโก้ก็ได้เพราะจะเพิ่มต้นทุนไปอีก หรือถ้าอยากทำแก้วแบบมีโลโก้ก็สามารถนำไฟล์ของเราที่มีให้ไปทำสติ๊กเกอร์ติดแก้วเองได้เหมือนกัน ซึ่งจะประหยัดกว่ามากจากแทนที่จะมาซื้อแก้วโลโก้ของเราซึ่งจะต้นทุนสูงและต้องมีค่าจัดส่งอีก และท่านสามารถนำอย่างอื่นมาขายร่วมกันได้หมดโดยเราไม่ห้ามเพราะร้านควรจะมีความหลากหลาย จะนำกาแฟ ชา อย่างอื่นก็มาขายได้ น้ำปั่น น้ำผลไม้ เครื่องดื่มต่างๆก็มาขายได้ ขนมปัง เค้ก คุกกี้ แซนวิช ก็มาขายควบคู่ได้หมด

6. กรณีที่วัตถุดิบหมดสั่งซื้อจากที่ไหนและมีอะไรบ้าง

หลักๆ ที่ต้องสั่งซื้อจากเราในกรณีที่วัตถุดิบหมดมีอยู่สองอย่างคือ

1.ใบชาอินเดีย ราคาขาย 360 บาท ต่อถุง สามารถทำได้ 200 แก้วต่อ 1 ถุง

2. กาแฟ ราคาขาย 380 บาท ต่อถุง สามารถทำได้ 200 แก้ว แก้วต่อ 1 ถุง

ส่วนเครื่องปรุงต่างๆ ที่จะได้ไปแล้วตั้งแต่ตอนแรกนั้น จะใช้ได้นานมากอยู่ที่ประมาณ  3-6 เดือน เพราะฉะนั้น หลักๆที่จะสั่งซื้อจากเราคือ ใบชา กับ กาแฟ ซึ่งไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง คือสั่งซื้อหนึ่งถุงเราก็ส่งให้  10 ถุง เราก็ส่ง โดยมีเพียงค่าจัดส่งต่อครั้งเท่านั้น ครั้งละ50บาท ส่วนอย่างอื่นหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั้งหมดเช่น นมตรามะลิ น้ำผึ้ง น้ำตาล

7. ชาอินเดีย กับ กาแฟเปอร์เซีย ต่างจาก ชา หรือ กาแฟ ทั่วไปอย่างไร

7.1 ชาอินเดีย  เราใช้ใบชาอัสสัม ซึ่งเรานำเข้ามาจากอินเดีย เรามีเมนูชาอินเดียทั้งหมด 4 รส ซึ่งทั้ง 4 รส นั้นใช้ใบชาอัสสัมตัวเดียวเป็นหลัก แต่ทำให้ออกมาเป็น 4 รสนั้น เราจะมีเครื่องปรุงสมุนไพรต่างๆใส่ลงไปเพื่อที่จะให้ออกมาเป็นแต่ละรสแตกต่างกัน สมุนไพรที่ใส่เช่น อบเชย กานพลู ใบกระวาน ขิง พริกไทยดำ ลูกกระวาน น้ำผึ้ง ซึ่งเราได้บดสำเร็จสดๆ เพื่อที่จะให้ใส่ในแต่ละรสไว้แล้ว เช่น ผงรสมาซาล่า ผงรสการ์โดม่อม

ถ้าอธิบายรสชาติของชาเป็นคำพูดเราจะอธิบายได้ว่าเป็นชานมหวานมันตามสไตล์ที่คนไทยนิยมดื่มนั่นเองและจะมีกลิ่นหอม กลิ่นอาย ของสมุนไพรต่างๆอยู่ด้วยเล็กๆ ซึ่งสูตรนี้เราได้ทดลองปรับปรุงให้เข้ากับวัฒนธรรมการดื่มของคนไทยที่ไม่นิยมกลิ่นของสมุนไพรที่แรงเกินไป โดยปกติแล้วคนอินเดียจะทานชาที่ใส่สมุนไพรมาก สิ่งเหล่านี้เราใช้เวลาในการทดลองตลาดมายาวนานถึง 9 ปี (ตั้งแต่ปี 2546) เพื่อที่จะให้รสชาติชา กาแฟเป็นอย่างทุกวันนี้ และคำแนะนำที่ได้ก็มาจากคนไทยแทบทุกระดับทำเลและอายุทั้งนั้น ทั้งในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดทุกภูมิภาค นมที่ใช้ตามสูตรของเราก็คือนมตรามะลินั่นเองซึ่งคุ้นเคยและถูกปากคนไทยอยู่แล้วมาช้านาน

7.2 กาแฟเปอร์เซีย เราจะใช้กาแฟสองชนิดผสมกัน คือ โรบัสต้าและอาราบิก้า เป็นกาแฟของไทยนี่เอง แต่การที่ทำให้กลายเป็นกาแฟเปอร์เซียนั้นคือการที่เราใส่สมุนไพรตัวนึงเข้าไปซึ่งเรานำเข้ามาจากอินเดีย ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอมแตกต่างกันกับกาแฟอื่นๆขึ้นมา เคล็ดลับของกาแฟเปอร์เซียไม่ได้อยู่ที่กาแฟที่ใช้แต่เป็นสมุนไพรที่ว่านี้ต่างหากที่เราใส่ลงไปเพิ่มเติมนั่นเอง และก็ไม่ได้อยู่ที่วิธีการชงว่าจะใช้เครื่องทำกาแฟสดหรือจะเป็นกาแฟโบราณหรือจะชงเป็นเหยือก

“กาแฟเปอร์เซีย” (Persian Coffee) มีที่มาจากวัฒนธรรมของชาวเบดูอิน ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลักที่อาศัยในดินแดนทะเลทราย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือชาวเปอร์เซียโบราณ ในปัจจุบันคือดินแดนหรือกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนั่นเอง การรับรองแขกของชาวเบดูอินที่มาเยี่ยมเยือน ด้วยกาแฟแบบเปอร์เซีย ซึ่งมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน นั้นถือเป็นการให้เกียรติอันสูงสุดต่อแขก และชาวเบดูอินนั้นยังมีธรรมเนียมข้อหนึ่งว่าหากชายหนุ่มเสนอกาแฟให้หญิงสาว แล้วหญิงสาวรับ หมายความว่าหญิงนั้นต้องแต่งงานกับหนุ่มผู้ให้ การแต่งงานจะต้องกำหนดสินสอดเป็นจำนวนแพะหรือแกะตามแต่ระบุ และต้องจัดพิธีฉลอง 3 วัน 3 คืน ในกระโจมหนังขนาดยาวของพวกเขา ทั้งยังสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยสมุนไพรใน “กาแฟเปอร์เซีย” นั้น เช่น ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย บำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ แก้แพ้ แก้หวัด และคายความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยเรา ที่มีอากาศร้อนมาก แม้จะไม่เท่ากับอากาศในทะเลทรายก็ตาม ซึ่งสูตรของกาแฟตัวนี้นั้นมีอยู่จริงและท่านก็สามารถค้นคว้าได้เช่นกันในgoogleเกี่ยวกับสมุนไพรตัวนี้ที่เรานำเข้ามาจากอินเดียและใส่เข้าไปเพิ่มเติมในกาแฟ เรื่องราวเหล่านี้คือจุดขายที่ดีเยี่ยมของกาแฟเปอร์เซีย

8. ราคาขายต่อแก้วและจุดคุ้มทุนเป็นอย่างไร

ราคาขายนั้นแต่ละที่จะขายราคาไม่เท่ากันจะขึ้นอยู่กับทำเลและค่าเช่าเป็นหลักแต่สิ่งที่ต้องรู้ก่อนก็คือต้นทุนต่อหนึ่งแก้วคือเท่าไหร่ ต้นทุนต่อหนึ่งแก้วของเราจะอยู่ที่ 6-7 บาท ต้นทุนนี้รวมทุกอย่างพร้อมเสริฟให้ลูกค้าแล้ว คือรวม แก้ว ฝา หลอด น้ำชา น้ำแข็ง พร้อมเสริฟ ราคาขายที่นิยมขายกันมากที่สุดคือแก้วละ 20 บาท แต่ละที่ขายราคาไม่เท่ากัน เช่น บางท่านเปิดขายหน้าบ้านตัวเองแบบไม่เสียค่าเช่าเลย นำไปขายแก้วละ 15 บาท ก็มี สำหรับราคาขายแพงสุดที่ขายคือ 50-60 บาทก็มี คือประเภทค่าเช่า 5-6 หมื่นบาทตามในห้างใหญ่ๆ แต่ถ้าประเภททำเล บิ๊กซีหรือโลตัส ค่าเช่าประมาณ 10,000 – 20,000 บาทนั้น จะขายกันแก้วละ 30-35-40 บาท แต่หากเป็นตามตลาดนัดทั้งหลายหรือเช่าหน้าร้าน จะขายกัน 20-25 บาท  ราคาขายเหล่านี้ทางเราจะช่วยแนะนำว่าควรจะขายเท่าไหร่ให้เหมาะสมกับทำเลและค่าเช่าที่ท่านจะเปิดร้าน เราสามารถทำอัดขวดขายให้ลูกค้านำกลับบ้านก็สามารถทำได้

วิธีการคำนวณจุดคุ้มทุนเราจะแนะนำง่ายๆเช่น

ทำเลตลาดนัดค่าเช่าวันละ 50 – 100 บาท เป็นเดือนละ1500-3000บาท

ต้นทุนต่อแก้ว

7

(บาท/แก้ว)
ค่าเช่า

3

(บาท/แก้ว)
รวมต้นทุน

10

(บาท/แก้ว)
ราคาขาย

20

(บาท/แก้ว)
ถ้าขายได้ 20 แก้วต่อวัน 20X20X30=

12000

(บาท/เดือน)
หักต้นทุน 10X20X30=

6000

(บาท/เดือน)
กำไร

6000

(บาท/เดือน)

 

หมายเหตุ ใช้ยอดขายต่ำที่สุดต่อวันที่ควรจะขายได้คือวันละ 20 แก้ว เป็นกำไรที่ควรจะได้ขั้นต่ำในแต่ละเดือน แต่ในความเป็นจริงยอดขายควรจะเป็น 50-100 แก้วต่อวัน หรือถ้าที่คนเยอะจริงๆ ก็ควรจะอยู่ที่ 150-200 แก้วต่อวัน ตามข้อมูลด้านบนเป็นยอดขายที่แย่ที่สุดแล้ว ซึ่งเราควรจะพิจารณาว่าทำเลที่เราจะไปเปิดร้านขายนั้นจะได้ถึงวันละ 20 แก้วหรือไม่ และเราต้องดูอีกว่าทำเลที่เราไปขายนั้นขายทุกวัน ขายทั้งวันหรือเปล่า หรือขายได้แค่จันทร์ถึงศุกร์หรือเสาร์อาทิตย์หรือขายแค่ช่วงบ่ายหรือขายแค่ช่วงเช้าอย่างเดียว

9.สามารถดัดแปลงสูตรได้หรือเปล่า

โดยปกติแล้วสูตรชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซียของเราเป็นสูตรที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับชากาแฟอื่นๆในท้องตลาดอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากจะดัดแปลงเสริมแต่งเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน เช่น จะนำไปทำเป็นชากาแฟปั่นก็ได้ ใส่ไข่มุกก็ได้ ใส่เฉาก๊วยก็ได้ ถ้าอยากจะทำ อยากให้ทราบว่าสูตรของเราได้มีการดัดแปลงปรับปรุงใช้เวลาถึง 9 ปีให้ถูกปากในระดับกลางไว้อยู่แล้ว สูตรของเราปัจจุบันนี้เราหาจุดสมดุลไว้แล้วว่าทุกคนต้องทานได้แน่ๆ ไม่เข้มไปหรืออ่อนไป ไม่แรงไปหรือเบาไป

10.มีการควบคุมทำเลการเปิดอย่างไร

วิธีการควบคุมทำเลมีอยู่ 2 ขั้นตอน คือ

10.1 ในใบสมัครต้องมีการระบุสถานที่ๆจะนำไปขายอย่างชัดเจน

10.2 เมื่อท่านได้นำไปเปิดขาย ณ สถานที่ๆมีการระบุไว้แล้วนั้นต้องมีการถ่ายรูปให้ทางเรา เพื่อทางเราใช้เป็นข้อมูลในการยืนยันสิทธิว่าท่านได้ไปเปิดที่ตรงนั้น ตรงนี้แล้วและเราจะนำรูปถ่ายไปโฆษณาตามสื่อต่างๆที่เรามีและอับเดทอยู่ตลอดเวลา เป็นการโปรโมทร้านท่านเพื่อให้ลูกค้าเข้าไปทานด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก

11.ถ้าคุณเปิดร้านกาแฟสดอยู่แล้วและอยากได้สูตรกาแฟเปอร์เซียแบบกาแฟสดจะต้องลงทุนเป็นแสนหรือไม่

ไม่จำเป็น เพราะท่านสามารถลงทุนแบบ 6,900 ซึ่งท่านสามารถ นำไปทำขายได้ทั้ง 10 เมนูเลย รวมกาแฟเปอร์เซียแบบกาแฟสดด้วยโดยที่ไม่จำเป็นต้องซื้อเมล็ดกาแฟจากทางเราเพราะสูตรกาแฟสดของเรานั้นไม่ได้อยู่ที่เมล็ดกาแฟที่ใช้กล่าวคือท่านสามารถใช้เมล็ดกาแฟที่ท่านใช้อยู่ได้เลยแค่เพียงใส่เพิ่มสมุนไพรบางตัวลงไปเท่านั้นเอง ซึ่งทางเราจะมีให้ไว้อยู่ในชุด 6,900 อยู่แล้วหรือท่านสามารถใช้เมล็ดกาแฟของทางเราก็ได้เช่นกัน สูตรวิธีการทำง่ายๆนี้เราจะมีให้ท่านไปทำอย่างครบถ้วน

ขอเพิ่มเติมสำหรับคนที่มีร้านกาแฟสดอยู่แล้วว่า ขณะนี้ในตลาดบ้านเรานั้น มีร้านกาแฟสดมากมาย เยอะแยะไปหมด หากถามว่า แต่ละร้านที่มีอยู่นั้น มีความแตกต่างอะไรชัดเจนหรือไม่ระหว่างกันเอง ยกตัวอย่างเช่น ในสถานที่บางสถานที่ ในทำเลบางทำเล มีร้านกาแฟสดติดกัน 5 ร้าน และท่านเป็นหนึ่งในนั้น อยากทราบว่าลูกค้าที่จะมาซื้อกาแฟสดสักแก้วหนึ่งจากทั้ง 5 ร้านนี้ที่เขาต้องเลือก ลูกค้าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือก ก็เหมือนกันหมด คือ ถูกปากลูกค้าหรือไม่ เข้มไปหรือ อ่อนไป เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฝีมือคนทำก็เป็นปัจจัยหนึ่งซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีลุกค้าซื้อประจำอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ล่ะ ซึ่งถ้ามีสักร้านหนึ่งในนั้นมีป้ายเมนูของเราเพิ่มไว้ด้วย ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซียนั้น ก็จะทำให้ลูกค้าสงสัยซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเข้ามาสนทนา ถามต่อว่ามันคืออะไร รสมันเป็นอย่างไร จะทำให้ร้านท่านเป็นจุดเด่นที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมาทันที เราอาจจะมีแก้วเล็กๆให้เขาชิมในแต่ละรสว่าเป็นอย่างไร ชอบและสนใจรสไหน

 

12.วิธีการสั่งซื้อ จัดส่งและชำระเงินทำอย่างไร

12.1 ท่านต้องกรอกใบสมัครก่อน ตามลิ้ง http://www.theindiantea.com/main/doc/form.doc ซึ่งในเว็บของเรามีให้ดาวโหลดใบสมัครสามารถกรอกได้ทันที กรอกเสร็จบันทึกและแนบไฟล์ส่งมาตามอีเมล์ที่แสดงในเว็บ หรือหากท่านไม่สะดวกกรอกใบสมัครอีกวิธีหนึ่งคือโทรมาหาเราที่เบอร์ 084-682-5999 และทางเราจะเป็นคนกรอกให้ พอเราได้รับใบสมัครแล้วจะถือเป็นการยืนยันการสั่งซื้อ หากรูปแบบที่ท่านสมัครเป็นรูปแบบ 6,900 ทางเราจะจัดส่งสินค้าให้ก่อนเลยทางไปรษณีย์โดยไม่ต้องโอนเงินก่อนล่วงหน้า และพอท่านได้รับสินค้าต่างๆครบถ้วนแล้ว จึงค่อยโอนเงินภายใน 2 วัน หลังจากได้รับสินค้าครบแล้ว โดยวิธีการโอนเงินแบบปกติที่เบอร์บัญชีระบุไว้ข้างล่างสุดของใบสมัครหรือ หน้าสุดท้ายข้างล่างสุดของคู่มือที่ท่านได้รับไปพร้อมกับสินค้าทั้งหมด

12.2 แต่ถ้าเป็นการลงทุนแบบ 19,000 ขึ้นไปนั้นหลังจากกรอกใบสมัครแล้ว จะมีการโอนเงินมัดจำก่อน 50% แล้วเราจะจัดส่งสินค้าไปให้ทางไปรษณีย์แล้วค่อยโอนเงินส่วนที่เหลืออีก 50% ภายใน 2 วัน หลังจากท่านได้รับสินค้าครบแล้ว

ชุดแรกที่เราส่งสินค้าให้ท่านจะไม่มีค่าจัดส่ง แต่หลังจากนั้น เมื่อสั่งสินค้าจากเราจะมีบวกค่าจัดส่ง 50 บาท ในแต่ละครั้งที่ส่ง หากท่านส่งใบสมัครมาแล้ว รบกวนโทรมาแจ้งให้ทางเราได้ทราบ เราจะได้เช็คว่าเราได้รับข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ และการโอนชำระเงินแต่ละครั้งก็เช่นกันต้องโทรแจ้งให้เราทราบทันทีเราจะได้เช็คได้ว่าเป็นการโอนเงินของท่านใด ณ เมื่อ วัน และเวลาใดเพื่อความถูกต้องชัดเจน

13.ป้ายร้านใช้วัสดุอะไรคงทนหรือไม่

ป้ายร้านที่เรามีให้จะมีทั้งหมด 3 ป้าย  ป้ายร้านที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 1 ป้าย, ป้ายโลโก้ 1 ป้าย, ป้ายเมนูตั้งพื้น 1 ป้าย ซึ่งลูกค้าสามารถนำไปติดตั้งได้ สามารถชมภาพได้ในเว็บของเรา ซึ่งวัสดุที่ใช้นั้น เป็นป้ายอิงค์เจ็ต เอาท์ดอร์ ติด ฟิวเจอร์บอร์ด คุณสมบัติทนแดด ทนฝนได้สำหรับติดตั้งภายนอก ป้ายเมนุของเรานั้นอาจไม่จำเป็นต้องตั้งพื้นก็ได้ อาจตัดออกเอาไปแปะตามผนังหรือเคาเตอร์ก็ได้แล้วแต่ท่านเห็นว่าเหมาะสมกับทำเล และร้านของท่าน นอกจากป้ายร้านสามป้ายหากท่านต้องการออกแบบร้านเองเพิ่มเติม เราจะมีไฟล์แบรนด์ ไฟล์ยี่ห้อของเรา เป็นไฟล์elastratorให้กับท่านสามารถนำไปทำป้ายอิงค์เจ็ต ไวนิล เมนู และอื่นๆ

14.มีการเก็บค่าธรรมเนียมหรือหักรายได้จากการขายหรือไม่

ทางเราไม่มีนโยบายเก็บค่าธรรมเนียมหรือหักรายได้จากการขายใดๆทั้งสิ้น ให้ท่านมองง่ายๆว่าเราขายสูตรวิธีการทำพร้อมยี่ห้อแบรนด์ของเราเป็นแพ็คเกจตามที่ท่านเลือกในรูปแบบที่เรามีให้ท่าน แล้วหลังจากที่ท่านได้ซื้อไปแล้วนั้น กรณีที่วัตถุดิบหมดก็มาสั่งซื้อจากเรา

15.มีการเซ็นสัญญาหรือควบคุมอื่นๆอีกหรือไม่

เราไม่มีการเซ็นสัญญา นอกจาก กรอกใบสมัครให้ครบถ้วนและส่งมาหาเราเท่านั้น

THE INDIAN TEA FRANCHISE
ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย แฟรนไชส์
เลขที่ 927/116 ซอยลาดพร้าว 87 ถนนลาดพร้าว
แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

Mobile : 084-682-5999 , 092-369-3951

E-mail : sales@theindiantea.com

Website : www.theindiantea.com

ท่านสามารถทิ้งข้อมูลติดต่อหากท่านสนใจในแฟรนไชส์ชาอินเดีย กาแฟเปอร์เซีย ข้อมูลของท่านจะไม่ถูกแสดงและเราจะตอบกลับทางอีเมล์หรือทางโทรศัพท์

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: